“นอนกรน” เสี่ยงต่อการเกิดภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับโดยไม่รู้ตัว อันตรายถึงชีวิต!

0
794
อาการ “นอนกรน” ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่ทนกันจนเคยชิน น้อยคนที่จะตระหนักว่าเสียงกรนมักมาพร้อมกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ทำให้คุณภาพการนอนย่ำแย่ถึงขนาดเป็นอันตรายต่อชีวิต
นอนกรน

อาการ นอนกรน

การนอนกรนเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อช่องทางเดินหายใจหรือเนื้อเยื่ออื่น ๆ ในระบบหายใจของเรามีการตีบแคบลง ทำให้ลมหายใจที่ผ่านเข้ามาผ่านช่องทางแคบดังกล่าวเกิดการกระพือและเสียงกรนขึ้น

เมื่อเรานอนหลับตามธรรมชาติ กล้ามเนื้อในร่างกายจะหย่อนตัวหรือคลายตัวลง ซึ่งทำให้อวัยวะในระบบหายใจเช่นเพดานอ่อนหรือโคนลิ้นก็จะหย่อนลงมาทำให้ทางเดินหายใจแคบลงได้ โดยเฉพาะเมื่อเรานอนหงายหน้าขึ้นบนเตียง

เมื่อช่องทางเดินหายใจแคบลง การหายใจเข้าจะทำให้กล้ามเนื้อสั่นสะเทือน และทำให้เกิดเสียงกรนขึ้น สามารถอธิบายได้คล้ายกับเวลาที่ลมผ่านท่อเล็กๆ จึงเกิดเสียงกรนขึ้น (เช่นเมื่อลมเป่าผ่านท่อเล็กๆ จะทำให้เกิดเสียงเบาๆ หรือเป็นสัญญาณเสียง) เมื่อกล้ามเนื้อสั่นสะเทือน หรือกระพือ เสียงกรนก็จะเกิดขึ้น และนี่ก็คือสาเหตุของการนอนกรน

อาการนอนกรนอาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างธรรมดาในบางคน แต่ในบางรายอาจเกิดภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea) ซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงมากขึ้น และสามารถทำให้คุณภาพการนอนเสียหายถึงขนาดที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea)

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea) เกิดเมื่อช่องทางเดินหายใจปิดตัวลงบ่อยครั้งในระหว่างการหลับ ซึ่งทำให้เกิดการหยุดหายใจชั่วครู่ หรือการลดลงของการได้รับออกซิเจนในร่างกาย ซึ่งสามารถส่งผลให้คุณภาพการนอนเสียหาย และมีผลกระทบต่อสุขภาพโดยรวมได้ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจทำงานหนักขึ้นเพื่อเติมเต็มออกซิเจนให้กับร่างกาย เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด และอาจทำให้เกิดภาวะนอนหลับกลายเป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น เกิดอาการนอนหลับในช่วงขับรถหรือทำงาน

หากท่านมีความเสี่ยงหรือสงสัยว่าเป็นอาการหยุดหายใจขณะหลับ (sleep apnea) ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและได้รับการรักษาที่เหมาะสม

การตรวจการนอนหลับที่บ้าน (Home Sleep Test) / โรงแรม (Hotel Sleep Test)

ใครที่เสี่ยงต่อการนอนกรน

  • น้ำหนักเกิน พบว่าผู้ที่มีน้ำหนักมากจะมีทางเดินหายใจส่วนบนแคบกว่าผู้ที่มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • มีอาการของโรคภูมิแพ้บริเวณจมูก
  • มีสันจมูกเบี้ยวหรือคด รูปหน้าหรือคางผิดปกติ เช่น คางเล็ก คางหลุบ
  • ต่อมทอนซิลโตขวางทางเดินหายใจ
  • ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่เป็นประจำ
  • การรับประทานยาที่ทำให้เกิดอาการง่วง เช่น ยาแก้แพ้ ยานอนหลับ ยาคลายเครียด
  • ผู้ชายมีโอกาสนอนกรนมากกว่าผู้หญิง 6-10 เท่า
  • ผู้หญิงจะมีอาการนอนกรนเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าวัยหมดประจำเดือน

การรักษาอาการนอนกรนเบื้องต้น

  • ลดน้ำหนัก
  • ใช้เครื่องช่วยหายใจแรงดันบวกในทางเดินหายใจ(CPAP) เพื่อเปิดทางเดินหายใจที่ตีบแคบให้กว้างขึ้น
  • ใส่อุปกรณ์ดึงลิ้นหรือกรามให้เลื่อนไปด้านหน้า
  • จี้หรือผ่าตัดเพดานอ่อนและลิ้นไก่ด้วยเลเซอร์ หรือ Laser-assisted uvulopalatopharyngoplasty (LAUP)
  • ผ่าตัดเพดานในช่องปากหรือตัดกล้ามเนื้อบริเวณโคนลิ้น หรือ Uvulopalatopharyngoplasty (UPPPX)
  • ผ่าตัดเลื่อนกรามเพื่อให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้น

บทความอื่นๆ

 

ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต

บทความก่อนหน้านี้ทำความรู้จัก Sculptra นวัตกรรมฟื้นฟูคอลลาเจนอย่างล้ำลึก ทำไมถึงช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์ได้
บทความถัดไปภาวะ “แพ้ยาสลบ” (Malignant Hyperthermia) ภาวะไข้สูงอย่างรุนแรงที่เสี่ยงต่อการเสียงชีวิตได้