รายการตรวจการทำงานไทรอยด์

เช็คหน่อย ไทรอยด์ผิดปกติหรือไม่? ผู้ป่วยไทรอยด์ อาจมีภาวะผอมหรืออ้วน บวม คอพอกหรือตาโปน ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ หากมีภาวะการทำงานของไทรอยด์ผิดปกติ ทั้งไฮเปอร์ไทรอยด์ (ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมามากเกินไป) และไฮโปไทรอยด์ (ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป) โดยจะมีอาการแสดงที่แตกต่างกัน

รายละเอียดการตรวจไทรอยด์

ค่าตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ 5 รายการ มีรายการตรวจดังนี้
  1. ตรวจฮอร์โมนกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ (Thyroid Stimulating Hormone: TSH)
  2. ตรวจระดับไตรไอโอโดไทโรนีน (Free T3)
  3. ตรวจระดับไทรอกซีน (Free T4)
  4. ตรวจระดับไตรไอโอโดไธโรนีน (Triiodothyronine: T3)
  5. ตรวจระดับไทรอกซีน (Thyroxine: T4)
ปัจจุบัน มีคนจำนวนมากป่วยเป็นโรคไทรอยด์โดยที่ไม่รู้ตัว เพราะไม่รู้จักโรคนี้อย่างดีพอ ในบางครั้งจึงไม่ได้เข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที ดังนั้น การสังเกตความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่อยากให้คุณพลาดหรือละเลย เพราะถ้าไทรอยด์ทำงานมากเกินไป หรือน้อยเกินไปก็จะทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพตามมาได้เช่นกัน

อาการแบบไหน บ่งบอกไทรอยด์ทำงานผิดปกติ

ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เราสามารถสังเกตอาการได้ หากภาวะผิดปกตินั้นแสดงชัดเจน คือ มีก้อนเกิดขึ้นที่กลางลำคอ สามารถเคลื่อนที่ขึ้นเวลาที่เรากลืนน้ำลายได้ ลักษณะเช่นนี้มักจะเป็นเนื้องอกไทรอยด์ที่มีโอกาสพัฒนาไปสู่มะเร็งได้ ดังนั้น หากพบความผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คให้แน่ชัด พร้อมวางแผนการรักษาในลำดับต่อไป นอกจากนี้ เรายังสามารถสังเกตความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ผิดปกติได้ และหากพบว่ามีสัญญาณจากอาการเหล่านี้
  • รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง เหนื่อยง่าย ที่เป็นเช่นนี้เพราะหัวใจถูกกระตุ้นให้ทำงานหนัก จากภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ใจสั่น เหงื่อออกง่าย ความดันโลหิตสูงร่วมด้วย
  • ภาวะนอนไม่หลับ เนื่องจากต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ จึงหลั่งฮอร์โมนมากเกินไป ส่งผลต่อการกระตุ้น ระบบประสาทส่วนกลาง และรบกวนการพักผ่อนของเราได้ จึงทำให้รู้สึกง่วงตลอดเวลา ไม่สดชื่น
  • ท้องเสียง่าย ระบบขับถ่ายไม่เป็นปกติ เพราะต่อมไทรอยด์มีส่วนกระตุ้นการทำงานของระบบทางเดินอาหารด้วย อาจทำให้อุจจาระบ่อยขึ้น ส่วนในภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำจะมีอาการท้องผูก
  • ตาโปนกว่าปกติ เนื่องจากเนื้อเยื่อหลังนัยน์ตาขยายขนาดขึ้นจากภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
  • อ้วนง่าย หรือ ผอมง่าย เมื่อต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติในลักษณะหลั่งฮอร์โมนออกมามาก กระตุ้นระบบเมตาบอลิซึมให้ขยันเกินไป ในภาวะไทรอยด์เป็นพิษจะพบว่าน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ส่วนในไทรอยด์ทำงานต่ำจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นง่าย เนื่องจากการเผาผลาญที่ต่ำลง
  • เส้นผมและขนผิวหนังร่วง ผิวแห้ง ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำจะส่งผลต่อระบบเผาผลาญทำงานได้ลดลง อาจทำให้เหงื่อลดน้อยลง และผิวแห้งมากขึ้นได้

รู้ได้อย่างไรว่า “ไทรอยด์ผิดปกติ”

ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ หรือผิดปกติ มักจะพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายประมาณ 9-10 เท่า โดยเฉพาะในช่วงอายุ 20-40 ปี ปัจจุบันสามารถตรวจคัดกรองได้โดยมีหลากหลายวิธีขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การตรวจเลือดเพื่อเช็คการทำงานของต่อมไทรอยด์ และการเผาผลาญ
  • ตรวจวัดปริมาณฮอร์โมนไทรอยด์ ปริมาณของฮอร์โมนไทรอยด์ T3 และ T4 ในเลือด ว่าทำงานผิดปกติหรือไม่ หากไม่ปกติก็แปลว่ามีอาการของโรคไทรอยด์
  • ตรวจวัดการทำงานของต่อมใต้สมอง (Thyroid-Stimulating Hormone: TSH) เป็นการตรวจวัดปริมาณฮอร์โมนต่อมใต้สมอง ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์
  • การตรวจวัดระดับปริมาณแอนติบอดีของต่อมไทรอยด์
ในกรณี ที่พบความเสี่ยง และต้องการตรวจวิฉัยให้แม่นยำขึ้นเพื่อวางแผนการรักษา จะมีการเอกซเรย์ อัลตราซาวด์เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถเห็นการทำงาน และความผิดปกติของฮอร์โมนไทรอยด์ได้ชัดขึ้น

เมื่อรู้ตัวแล้วว่าไทรอยด์ผิดปกติ ควรปฎิบัติอย่างไร

โรคไทรอยด์ สามารถรักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับผู้ป่วยต่ละราย เช่น อายุของผู้ป่วย ขนาดของต่อมไทรอยด์ ระยะเวลาของโรค โดยปกติการรักษาไทรอยด์มี 3 รูปแบบ
  1. รักษาด้วยยา ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการรักษานานประมาณ 1 – 2 ปี โดยในระหว่างที่ทำการรักษานั้นผู้ป่วยต้องรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอและเคร่งครัด เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม เพราะการที่ไม่ปฎิบัติตัวตามที่แพทย์แนะนำ ไม่รับประทานยาอย่างต่อเนื่องจะทำให้อาการของต่อมไทรอยด์มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และยากต่อการควบคุม
  2. รักษาด้วยการกลืนเร่ไอโอดีน ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะพิจารณาเลือกในผู้ป่วยที่มีอายุมาก และมีอาการค่อนข้างรุนแรง หรือกลับมาเป็นซ้ำ หลังจากที่รักษาด้วยการให้ยามาแล้ว
  3. รักษาด้วยผ่าตัด วิธีการนี้แพทย์จะพิจารณาเลือกเป็นขั้นตอนสุดท้าย ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากๆ และต่อมไทรอยด์มีขนาดโตมากขึ้น แพ้กลุ่มยากินที่ใช้ในการรักษา หรือเกิดผลข้างเคียงต่อระบบเม็ดเลือด และหลอดเลือด

ต่อมไทรอยด์สำคัญอย่างไร

        ต่อมไทรอยด์ (Thyroid gland) เป็นต่อมไร้ท่อที่ใหญ่ที่สุดในร่างกาย มีน้ำหนักประมาณ 15-20 กรัม อยู่ที่ลำคอด้านหน้าข้างหลอดลม ต่ำกว่าลูกกระเดือกเล็กน้อย ข้างละ 1 ต่อม มีสีแดงเข้มเป็นพู มีรูปร่างเหมือนเกือกม้าหรือปีกผีเสื้อ ต่อมไทรอยด์มักมีขนาดโตกว่านิ้วหัวแม่มือของเจ้าของต่อมเล็กน้อย โดยมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอกซีน (Thyroxine) ซึ่งเป็นตัวทำให้เกิดขบวนการเมตาบอลิซึม (Matabolism) คือ เปลี่ยนอาหารในร่างกายให้เป็นพลังงาน เพื่อช่วยป้องกันภาวะปัญญาอ่อนในเด็กและภาวะเตี้ยแคระ (Cretinism) ส่วนในผู้ใหญ่หากขาดจะเสี่ยงเป็นโรคคอพอก อ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง อัตราการเผาผลาญอาหารต่ำ ทำให้อ้วนและเฉื่อยชา แต่หากมีมากเกินไปจะมีภาวะตื่นเต้นตกใจง่าย หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ และรูปร่างผอม


 ข้อมูลความรู้ก่อนตรวจ

  • ระยะเวลารับบริการประมาณ 30 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้รับบริการ
  • ระยะเวลารอผลตรวจประมาณ 1-3 วัน จะส่งผลตรวจที่ออกก่อนให้ตามอีเมลที่แจ้งไว้เท่านั้น
  • ชาวต่างชาติสามารถรับบริการได้ โดยต้องเตรียมพาสปอร์ตมาด้วย
  • ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากอยู่ในระหว่างรับประทานยาหรืออาหารเสริม เนื่องจากยาและอาหารเสริมบางชนิดอาจส่งผลต่อระดับการทำงานของต่อมไทรอยด์

ผู้ที่เหมาะกับบริการนี้

  • ผู้ที่มีประวัติเคยตรวจเลือดแล้วพบความผิดปกติของฮอร์โมนไทรอยด์มาก่อน
  • ผู้ที่มีประวัติได้รับการรักษาโรคไทรอยด์มาก่อน เช่น การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ การกลืนแร่ไอโอดีน เป็นต้น
  • ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคไทรอยด์
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1
  • ผู้ที่มีภาวะมีบุตรยาก
  • ผู้ที่มีอาการคอพอกหรือคลำเจอก้อนที่คอ
  • ผู้ที่น้ำหนักลดลงหรือเพิ่มขึ้น 3 กิโลกรัมโดยไม่มีสาเหตุ ภายในช่วงเวลา 1 เดือน

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการตรวจไทรอยด์

ต่อมไทรอยด์ เป็นต่อมไร้ท่อที่อยู่บริเวณหน้ากล่องเสียง ทำหน้าที่ผลิตและหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์เข้าสู่กระแสเลือด เพื่อส่งไปยังอวัยวะต่างๆ ทำให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ภายใต้การควบคุมของต่อมใต้สมอง ฮอร์โมนต่อมไทรอยด์มีความสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจและสมอง รวมถึงควบคุมระบบการเผาผลาญของเซลล์ ระดับไขมันในเลือด ระบบย่อยอาหาร อุณหภูมิร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อ และความแข็งแรงของผิวหนัง ผม เล็บ หากต่อมไทรอยด์มีความผิดปกติ ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆ การตรวจคัดกรองต่อมไทรอยด์ คืออะไร? การตรวจคัดกรองเป็นการประเมินการทำงานและความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นของต่อมไทรอยด์ โดยการตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งประกอบไปด้วยฮอร์โมน 3 ชนิด ที่ทำหน้าที่ควบคุมซึ่งกันและกันเพื่อให้ฮอร์โมนอยู่ในระดับปกติ ได้แก่
  1. ฮอร์โมนกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ (Thyroid Stimulating Hormone: TSH)
  2. ฮอร์โมนไตรไอโอโดไทโรนีน (Triiodothyronine: Free T3)
  3. ฮอร์โมนไทรอกซีน (Thyroxine: Free T4)
นอกจากนี้ในการตรวจคัดกรอง หากตรวจอัลตราซาวด์ต่อมไทรอยด์ร่วมด้วย จะช่วยให้วิเคราะห์ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ได้ชัดเจนขึ้น โรคที่เกิดจากต่อมไทรอยด์ผิดปกติ โรคของต่อมไทรอยด์มักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยมีดังนี้
  • โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism) เป็นภาวะที่ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไป ทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์เป็นพิษ ร่างกายเผาผลาญมากผิดปกติ ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ใจสั่น เหงื่อออกง่าย ร้อนง่าย และมีอารมณ์ฉุนเฉียว
  • โรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป (Hypothyroidism) ภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนไทรอยด์น้อยกว่าปกติ มักเกิดหลังการผ่าตัดต่อมไทรอยด์หรือรักษาด้วยการกลืนแร่ไอโอดีนมาก่อน ส่งผลให้รู้สึกเฉื่อยชา หายใจไม่เต็มที่ คิดช้า พูดช้า หนาวง่าย และน้ำหนักเพิ่มขึ้น
  • โรคต่อมไทรอยด์อักเสบ (Thyroiditis) แบ่งเป็น 2 ชนิด คือชนิดอักเสบกึ่งเฉียบพลันและชนิดอักเสบเรื้อรัง โดยชนิดกึ่งเฉียบพลัน เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือภาวะต่อมไทรอยด์โต ทำให้รู้สึกเจ็บเมื่อคลำที่ก้อน ส่วนชนิดเรื้อรัง มีสาเหตุมาจากความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน มักมีอาการคอโตแต่กดแล้วไม่รู้สึกเจ็บ
  • โรคต่อมไทรอยด์โตแบบไม่เป็นพิษ (Thyroid nodule) คือการที่ต่อมไทรอยด์มีขนาดโตขึ้น แต่การสร้างฮอร์โมนยังปกติ มีทั้งชนิดต่อมไทรอยด์โตก้อนเดียว และต่อมไทรอยด์โตหลายก้อน โดยทั้งสองอาจส่งผลให้มีโอกาสเป็นมะเร็งได้
  • โรคมะเร็งต่อมไทรอยด์ (Thyroid cancer) มีทั้งชนิดที่มีความรุนแรงน้อย สามารถรักษาให้หายขาดได้ และชนิดรุนแรงมากที่ทำให้เสียชีวิตได้ภายในระยะเวลาสั้น
หมายเหตุ
  • โดยทั่วไปการตรวจฮอร์โมนไทรอยด์อาจตรวจฮอร์โมนทั้ง 3 ชนิดพร้อมกัน หรือตรวจเฉพาะ TSH เบื้องต้นก่อน ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ และอาการของผู้รับบริการ
  • การตรวจฮอร์โมนไทรอยด์ ควรตรวจเมื่อมีอาการของภาวะฮอร์โมนไทรอยด์สูง หรือต่ำ จากสภาวะบางอย่างที่ทำให้การทำงานของต่อมไทรอยด์เปลี่ยนไป
  • ยังไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่าการตรวจคัดกรองต่อมไทรอยด์ในผู้ที่ไม่มีอาการผิดปกติหรือความเสี่ยงใดๆ จะ
  • มีประโยชน์กว่าการไม่ตรวจ

 

ความอื่นๆ


ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต