Immunity Therapy (NK Therapy)

ทำความรู้จัก NK Cell Therapy คือ ?

NK Cell (Natural Killer Cell) หรือ เซลล์เม็ดเลือดขาวเพชฌฆาต ทุกคนน่าจะทราบกันดีว่าเม็ดเลือดขาวนั้นมีหน้าที่ ที่จะช่วยป้องกันเชื้อโรค แบคทีเรีย หรือเข้าใจง่าย ๆ คือภูมิคุ้มกันของเรานั่นเอง ซึ่ง NK Cell เป็นหนึ่งในเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกัน ซึ่งมีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว มีหน้าที่ในการป้องกัน และกำจัดสิ่งแปลกปลอม เชื้อโรค แบคทีเรีย และเซลล์มะเร็งที่อาจเข้าสู่ร่างกายของเรา ไม่ให้สามารถอยู่ในร่างกายของเราได้ ต้นเหตุที่ทำให้เราไม่สบาย ป่วย นั่นเอง และที่พิเศษกว่านั้นคือ NK Cells สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้ดีกว่าเซลล์เม็ดเลือดขาวทั่วไป


NK Cell มีอยู่ในร่างกายเราอยู่แล้ว

NK Cell คือ เม็ดเลือดขาวที่มีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว ประมาณ 2,000 – 5,000 ล้านเซลล์ ซึ่ง NK Cell สามารถลดลงได้เมื่อร่างกายของเราอ่อนแอ หรือเกิดจากอายุที่มากขึ้น จึงเป็นเหตุให้เมื่อเราอายุเยอะขึ้น สามารถป่วยได้ง่ายขึ้น หรือการใช้ชีวิตของประจำวัน อายุน้อย ก็สามารถทำลายNK Cell ได้ หากเราพักผ่อนน้อย ดื่มแอลกอฮอลล์ หรือสูบบุหรี่ ซึ่งไม่ได้ทำลายแค่ NK Cell เท่านั้นแต่รวมถึงระบบต่าง ๆ ในร่างกายด้วยเช่นกัน 

หากร่างกายเรามี NK Cell น้อยอาจทำให้เราเกิดการติดเชื้อ เช่น งูสวัด โรคตับอักเสบ หรือไข้หวัดที่เกิดบ่อยขึ้น เป็นสัญญาณที่บอกได้ว่า NK Cell มีน้อยลงนั้นเอง 


NK Cell Therapy ต่ำลง ร่างกายแสดงผลยังไง?

ในภาวะปกติจะพบ NK Therapy อยู่ที่ประมาณ 10-15% ของเม็ดเลือดขาวชนิด Lymphocyte และมีโอกาสลดลงได้จากความอ่อนแอของร่างกายที่เพิ่มขึ้น โดยมักเกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเพิ่มได้มากขึ้นด้วย บวกกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน เช่นกินโปรตีนน้อยพักผ่อนน้อย ดื่มหนัก สูบบุหรี่บ่อย เป็นต้น ผู้ที่มีการติดเชื้อบ่อย เช่น เริม งูสวัด โรคตับอักเสบ หรือเป็นหวัดบ่อยกว่าแต่ก่อน อาจเป็นสัญญาณของภูมิคุ้มกันตก หรือ NK Therapy ต่ำเพราะเริ่มมีจำนวนน้อยลง

เมื่อไรก็ตามที่ระดับ NK Therapy ต่ำ จึงทำให้เชื้อไวรัสโจมตีสิ่งผิดปกติในร่างกายได้ง่าย ทั้งยังลุกลามต่อไปสร้างกองกำลังเป็นของตัวเองโดยอาศัยร่างกายเราเป็นฐานทัพใหญ่อีกด้วย ผู้ที่ภูมิคุ้มกันต่ำจึงมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายเมื่อเทียบกับผู้ที่มีภูมิต้านทานปกติ เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก โรคตับอักเสบ ทั้งยังเป็นภาวะที่เปิดโอกาสให้สิ่งผิดปกติดังกล่าวสามารถพัฒนาไปสู่ระยะของโรคร้าย อย่างมะเร็ง (Cancer) ร่วมด้วยได้


ฟื้นฟู NK Cell ได้ด้วยการดูแลตัวเอง

– รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะผักสีเขียว ถั่วเหลือง

– ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาที

– นอนพักผ่อนให้เพียงพอ 7 ชม. / วัน

– รับประทานอาหารเสริม ที่เสริมสร้าง NK Cell แต่ต้องได้รับการรับรองจากองค์กรอาหารและยา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

– งดบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์


เราสามารถตรวจเช็ค NK CELL ในร่างกายได้

สามารถตรวจได้โดยการเจาะเลือด และดูระดับการทำงานของ NK Cell (NK Cell Activity Test) เพื่อดูว่า NK Cell ในร่างกายของเรามีประสิทธิภาพในการทำงานได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าหากมีพบว่า NK Cell ทำงานได้ในระดับที่น้อย อาจไม่เป็นผลดีต่อร่างกายเท่าไร สามารถเสี่ยงเกิดโรคตามมาได้ ต้องทำการรักษาฟื้นฟูเพื่อให้ร่างกายมี NK Cell เพิ่มมากขึ้น เป็นผลดีต่อร่างกาย ในการป้องกันเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมที่อาจเข้าสู่ร่างกายได้

แม้ว่าการตรวจแล้วพบว่ามี NK Cell ในระดับปกติ ก็สามารถฟื้นฟู NK Cell ให้สูงขึ้นได้ เพราะร่างกายเราสามารถมีการเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอดเวลา ช่วยสร้างให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันมากยิ่งขึ้น ลดโอกาสการเป็นโรค หรือป่วยได้


การรักษาฟื้นฟู NK Cell (NK Cell Therapy)

อีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยเพิ่มหรือฟื้นฟู คือการใช้เทคนิคทางการแพทย์เพื่อเป็นตัวช่วยในการฟื้นฟู โดยนำการคัดแยก NK Cell ออกจากเม็ดเลือดในร่างกายของเรา นำมาผ่านกระบวนการเพาะเลี้ยงด้วยเครื่องมือแพทย์เฉพาะทาง สำหรับการคัดแยกโดยเฉพาะ ใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงโดยประมาณ 15 – 21 วัน เพื่อให้ได้ NK Cell ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเหมาะกับการนำกลับเข้าสู่ร่างกายตัวเอง


ใครเหมาะกับการทำ NK Cell Therapy

– ผู้ที่ต้องการเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพื่อป้องกันเชื้อโรค

– ผู้ที่มีอาการป่วยบ่อยครั้ง

– ผู้ที่มีภาวะอ่อนล้า

– ผู้ที่ป่วยจากการติดเชื้อไวรัส

– ผู้ที่สัมผัสมลพิษเป็นประจำ จากหน้าที่การงาน

– ผู้ที่สูบบุหรี่ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง

– ผู้ที่มีอายุ เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้นทำให้ NK Cell มีปริมาณที่ลดลง


ารทำ NK Therapy คือ

กระบวนการคัดแยก NK Therapy ออกจากเม็ดเลือดปกติ เพื่อนำมาเข้าสู่กระบวนการเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติมาตรฐานสากล โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 15-21 วัน จนได้ NK Therapy ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับคนไข้ ก่อนจะนำมาฉีดกลับให้คนไข้ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการปะทะกับเชื้อไวรัสแบบ 1 ต่อ 1 เพิ่มกำลังของหน่วยทหารให้พร้อมต่อสู้กับเชื้อไวรัสและสิ่งแปลกปลอมที่พยายามแทรกเข้าสู่ร่างกายตลอดเวลา  

การทำ NK Therapy ยังสามารถใช้เป็นการรักษาทางเลือก (Alternative) หรือการรักษาร่วม (Complementary) กับการรักษามะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งปอด เป็นต้น เพราะ NK Therapy จะคอยทำหน้าที่ค้นหาสิ่งที่มีหน้าตาผิดปกติและกำจัดซากเนื้อร้ายที่ตายแล้วออกจากร่างกายทุกวัน จึงมีส่วนช่วยลดโอกาสการกลับเป็นซ้ำของโรคร่วมด้วยได้


ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต