Face Contouring – ฉีดฟิลเลอร์ ที่สยามคลินิก

ฉีดฟิลเลอร์ที่ภูเก็ต ฟิลเลอร์ (Filler) คือ เป็นคำกว้างๆที่เราหมายถึงสารเติมเต็มทุกชนิด ที่นำมาใช้เติมเต็มต่างๆ เพื่อให้ดูสวยงามเป็นธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นไขมันหรือซิลิโคนเหลวต่างๆที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

แต่ปัจจุบันมีการคิดค้น สารเติมเต็มที่เรียกว่า ไฮยาลูรอนิคแอซิด (Hyaluronic Acid) หรือเราที่เรียกกันสั้นๆ ว่า HA ผลิตขึ้นจากการเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ เพื่อนำมาเติมเต็มหรือใช้ทดแทนคอลลาเจนและไฮยาลูรอนซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างผิวที่ร่างกายจะสูญเสียไปเมื่อเรามาอายุเพิ่มขึ้นนั่นเอง

โดยฟิลเลอร์ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาในเรื่องของโครงสร้างผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายตอบโจทย์ในทุกปัญหาบริเวณใบหน้า ตลอดจนรวมถึงเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ลงในตำแหน่งต่างๆ ก็มีการพัฒนาเทคนิคด้วยกันหลายๆเทคนิคขึ้นอยู่กับขนาดของปัญหาและตำแหน่งที่จะแก้ไข เช่น การแก้ไขปัญหาใต้ตา แก้มตอบ ร่องแก้ม คาง หรือจุดต่างๆ

สยามคลินิกภูเก็ต ให้บริการการฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ผู้ที่เชี่ยวชาญประจำคลินิกซึ่งพวกเราได้มีการอัพเดทเทคนิคล่าสุดเป็นประจำ

สารบัญ hide


ฟิลเลอร์ มีกี่ประเภท

ชนิดของฟิลเลอร์มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท คือ

  1. ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว (Temporary Filler) อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 2 ปี สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง เป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน เช่น ฟิลเลอร์กลุ่มไฮยารูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่คนไทยรู้จักกันดี ข้อดีของฟิลเลอร์แบบชั่วคราวคือสามารถย่อยสลายได้เอง และสามารถแก้ไขได้ในกรณีที่ฟิลเลอร์มีปัญหา
  2. ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) สามารถอยู่ได้นานประมาณ 2-5 ปี ยาวนานกว่าแบบแรก มีความปลอดภัยรองลงมาจากแบบแรก เช่น แคลเซียมฟิลเลอร์ ที่มีส่วนผสมของ แคลเซียมไฮดรอกซิลอะพาไทต์ (Calciumhydroxyapatite) สารเติมเต็มกลุ่มนี้ ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้รักษาในประเทศไทย เนื่องจากเมื่อเกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาจะสามารถทำการแก้ไขได้ยากกว่าสารเติมเต็มในกลุ่มฟิลเลอร์แบบชั่วคราว
  3. ฟิลเลอร์แบบถาวร (Permanent Filler) เป็นสารเติมเต็มกลุ่ม ซิลิโคน (Silicone) หรือ พาราฟิน (Paraffin) ซึ่งหลังฉีดไปแล้วฟิลเลอร์จะคงค้างอยู่ในชั้นผิวของเรา ไม่สามารถสลายไปตามธรรมชาติ มีผลข้างเคียงในระยะยาว เช่น ฟิลเลอร์ไหล หรือ ฟิลเลอร์ย้อยผิดรูป โดยปกติแพทย์จะไม่แนะนำให้ฉีดสารเติมเต็มชนิดถาวรเพราะหากต้องการนำออก อาจจะไม่สามารถนำออกได้หมด ซึ่งเกิดอันตรายในระยะยาวแก่ร่างกายเราได้


ฉีดฟิลเลอร์ สามารถฉีดจุดไหนได้บ้าง

การฉีดฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลายตำแหน่ง โดยตำแหน่งที่นิยมจะมีดังนี้เพราะจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนที่สุด ทำให้หน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ

  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เมื่ออายุมากขึ้นกระดูกใต้ตาของเราก็จะยุบตัวลง ทำให้บริเวณนั้นมีเนื้อน้อยลงทำให้ผิวหนังย่อนคล้อย ซึ่งสามารถเติมฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อทำให้หน้าดูเด็กลงได้
  • ฉีดฟิลเลอร์คาง ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการใช้แทนการศัลยกรรม
  • ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ปัญหาร่องแก้มลึกมักจะทำให้คนไข้หน้าดูแกกว่าวัย ซึ่งสามารถเติมฟิลเลอร์ร่องแก้ม เพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันที
  • ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ ช่วยแก้ปัญหาโหนกแก้มสูง
  • ฉีดฟิลเลอร์ปาก สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนทรงปากแต่ไม่อยากผ่าตัด
  • ฉีดฟิลเลอร์ขมับ การฉีดฟิลเลอร์ขมับเหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน
  • ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก การเติมฟิลเลอร์หน้าผากจะช่วยปรับหน้าให้ได้สัดส่วน สวยงาม ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง
  • ฉีดฟิลเลอร์จมูก เหมาะสำหรับคนที่อยากปรับแก้ไขรูปจมูกให้สวยสมบูรณ์ได้สัดส่วนและออกมาเป็นธรรมชาติมาก

ฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละตำแหน่ง ต้องฉีดปริมาณเท่าไหร่

การฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งนั้น ใช้ฟิลเลอร์ในการรักษาไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาบนใบหน้าของคนไข้แต่ละคน โดยแพทย์จะประเมินว่าปัญหาของคนไข้เป็นรายบุคคล โดยจะมีมาตรฐานดังนี้

  • จมูก / หยดน้ำ 1 ml.
  • คาง 1-2 ml.
  • ปากอวบอิ่ม 1-2 ml.
  • ร่องใต้มุมปาก 1-2 ml.
  • ร่องแก้ม 1-2 ml.
  • เติมแก้ม แก้มตอบ 2-4 ml.
  • เติมใต้ตา 1-3 ml.
  • ขมับ 2-3 ml.
  • หน้าผาก 4-6 ml
  • **เป็นปริมาณโดยคร่าว ขึ้นกับระดับปัญหาของแต่ละบุคคล

ฉีดฟิลเลอร์ ปลอดภัยไหม

  • ฟิลเลอร์ เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองโดยองค์กรอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ FDA เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูง
  • มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสม และวิเคราะห์ปริมาณยาและตำแหน่งที่ฉีดได้อย่างแม่นยำ และจะต้องฉีดในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานได้ รับอนุญาตเพราะหากฉีดโดนเส้นเลือดหรือบริเวณอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ชนิดของฟิลเลอร์ ที่มีให้บริการที่สยามคลินิก

ฟิลเลอร์แต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป โดยแพทย์จะเป็นผู้เลือกชนิดของฟิลเลอร์ให้เหมาะกับใบหน้าของท่าน โดยที่สยามคลินิกได้ใช้ฟิลเลอร์อยู่ 3 ยี่ห้อ ซึ่งถือว่าเป็นชนิดของฟิลเลอร์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกและผ่านมาตรฐานองค์การอาหารและยาของประเทศไทยดังนี้

ฟิลเลอร์ Restylane®

ฟิลเลอร์สัญชาติสวีเดน เป็นฟิลเลอร์ยอดนิยมอันดับ 1 ที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก การันตีจาก FDA อเมริกา และ CE MARKS จากยุโรป มีมากมายหลายรุ่นให้เลือกใช้กับแต่ละตำแหน่งปัญหาเช่นกัน อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 12-15 เดือน

  • Classic นิยมนำมาใช้ในการรักษาตำแหน่ง Midface เติมเต็มแก้มส้ม ร่องแก้ม ร่องพับมุมปาก ร่องพับคาง
  • Refyne เหมาะสำหรับการแก้ไขบริเวณที่ผิวหนังบางๆ มีรอยยับเล็กๆ ที่ต้องการความละเอียด เช่น รอบดวงตา
  • Defyne นำมาใช้ในการรักษาบริเวณ midface
  • Lyft สำหรับแก้ไขในจุดที่ต้องการแรงยกสูง เช่น บริเวณขมับ ตามตำแหน่งเส้นเอ็นต่างๆของใบหน้า คาง ร่องแก้ม
  • Volyme นิยมนำมาใช้ในการรักษาในตำแหน่งที่ต้องการการเติมเต็มที่ค่อนข้างลึก เช่น บริเวณแก้มตอบ ร่องแก้ม
  • Vital นำมาใช้เติมเต็มบริเวณหน้าผาก และยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมในเรื่องของปรับความชุ่มชื้นผิว สามารถนำมาแก้ไขปัญหา ริ้วรอย ร่องลึก ตื้นๆได้พร้อมเพิ่มฉ่ำวาวของผิว มีแรงยกเล็กน้อย และการเติมเต็มด้วยปริมาตรที่ไม่มากจนเกินไป
  • Vital light แก้ไขปัญหาจะใช้แก้ไขบริเวณ หลุมสิว รอยคล้ำใต้ตา หรือบริเวณที่ต้องการความชุ่มชื้นเป็นหลัก ไม่ได้เปลี่ยนแปลงปริมาตรมากจนเกินไป เช่น หลังฝ่ามือ ฝ่าเท้า รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่ลำคอ และเนินอก

ฟิลเลอร์ Juvederm®

ฟิลเลอร์สัญชาติอเมริกัน เป็นอีกหนึ่งฟิลเลอร์ที่คนไทยมักจะรู้จักกันดี

  • Ultra และ Ultra plus โดยฟิลเลอร์ 2 รุ่นนี้มีความเข้มข้นของ HA สูง เหมาะในการเติมเต็มในตำแหน่งที่ต้องการปริมาตรมาก เช่น ขมับ แก้มตอบ
  • Voluma เน้นใช้กับคาง ขมับตอบ หรือการฉีดลิฟใบหน้า
  • Volift ใช้สำหรับแก้ไขร่องลึกและรอยย่น อันเนื่องมาจากสภาวะต่างๆ
  • Vobella ทำมาเพื่อใช้สำหรับ ฉีดใต้ตา ฉีดปากอิ่มน้ำ
  • Volite filler ใช้สำหรับเติมเต็มรอยที่ผิวหนัง เพื่อแก้ไขลักษณะของผิวหนัง เช่น เติมความยืดหยุ่นให้ดีขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยยับ

ฟิลเลอร์ Belotero®

ฟิลเลอร์สัญชาติสวิส ได้รับความนิยมเนื่องจากราคาถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับสองยี่ห้อที่ได้กล่าวมาก่อน มี 4 รุ่นให้เลือกใช้

  • Soft นิยมใช้สำหรับในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวใส หน้าฉ่ำวาว มีน้ำมีนวล หรือบริเวณหน้าแก้ม เพิ่มความกระจ่างใส ลดรอยคล้ำบริเวณใต้ตา รวมไปถึงช่วยเก็บริ้วรอยเล็กๆ และรักษาหลุมสิวที่ไม่ลึกมากได้ด้วย
  • Balance นิยมใช้สำหรับบริเวณใต้ตา เพิ่มความกระจ่างใส เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน สร้างขอบปากและสร้างร่องเหนือริมฝีปากให้ชัดมากขึ้น อีกทั้งยังใช้บริเวณหน้าผากที่มีปัญหาไม่มากได้ รวมไปถึงหลุมสิวไม่ลึก
  • Intense นิยมใช้สำหรับบริเวณที่มีการขยับบ่อยๆ เช่น ขมับ หรือริมฝีปาก เติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม และใช้ยกกระชับใบหน้า รวมไปถึงริ้วรอยร่องลึกตามใบหน้า ช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์
  • Volume นิยมใช้ในการเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการการคงที่ของฟิลเลอร์ เช่น คาง ขมับ แก้มส้ม เพิ่มมิติให้กับใบหน้า

ฉีดฟิลเลอร์ เหมาะกับใคร

  1. ผู้ที่มีปัญหาผิว ต้องการลดและแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่างๆ ของใบหน้า เช่น หน้าผาก รอบดวงตา ร่องลึกมุมปาก
  2. ผู้ที่ต้องการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้า เช่น เติมริมฝีปาก ร่องแก้ม และยังช่วยทำให้แก้มดูตอบได้
  3. ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าให้กลับมาคงความอ่อนเยาว์ สดใส เปล่งปลั่ง
  4. ผู้ที่มีปัญหากังวลเรื่องรูขุมขน หลุมสิวบนใบหน้า

ฟิลเลอร์ ที่ได้มาตรฐานจะอยู่ได้นานแค่ไหน

  • โดยมาตรฐานจะมีอายุ 12-18 เดือน ขึ้นกับปริมาณ ความเข้มข้น และชนิด รวมถึงตำแหน่งที่ได้ฉีดฟิลเลอร์ไป
  • ฟิลเลอร์เป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีตามธรรมชาติจึงสามารถย่อยสลายได้เอง ตามกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกายโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง แต่สิ่งที่ควรระวังคือ หากเป็นฟิลเลอร์ปลอม หรือ ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน สารเหล่านี้จะไม่สามารถย่อยสลายไปได้เอง

ข้อดี-ข้อเสียของการ ฉีดฟิลเลอร์

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

  1. การฉีดฟิลเลอร์มีความปลอดภัย เพราะฟิลเลอร์แท้ ไฮยารูลอนิก แอซิด เป็นสารชนิดเดียวกับโครงสร้างผิวตามธรรมชาติ ทำให้เข้ากับผิวดี ส่งผลให้ผิวหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นธรรมชาติ
  2. แก้ปัญหาความมั่นใจ จากปัญหาใบหน้าที่ไม่ได้รูป ใบหน้าบิดเบี้ยว คางไม่สมส่วนได้
  3. ฟิลเลอร์แท้ ใช้ปรับรูปหน้า รูปคางได้เร็วทันใจ ปลอดภัยไม่เป็นอันตราย ไม่มีรอยแพ้ รอยช้ำ หรืออาการบวม
  4. ฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องเสียเวลานอนพักฟื้น หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
  5. ฟิลเลอร์ เมื่อหมดอายุก็จะสลายไปเองตามธรรมชาติ จึงปลอดภัยไม่ต้องกลัวสารตกค้าง ที่จะหลงเหลืออยู่ภายในร่างกาย และไม่ต้องผ่าตัดเพื่อนำออกเมื่อไม่ต้องการ

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์

  1. ฟิลเลอร์ มีอายุจำกัด คือ ประมาณ 18-24 เดือน เมื่อฟิลเลอร์หมดอายุ ผิวหนังบริเวณนั้นก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม เราก็ต้องไปพบแพทย์เพื่อฉีดรักษาเพิ่มใหม่เรื่อยๆ ไม่เสร็จในครั้งเดียวเหมือนผ่าตัดศัลยกรรม
  2. หากเจอฉีดฟิลเลอร์ปลอมเข้าไป ก็จะทำให้ผิวหนังเป็นผังผืด มีของเหลวใต้ผิวที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์ สามารถไหลไปกองรวมกันทำให้ดูเป็นก้อน ซึ่งอันตรายมาก
  3. หากแพทย์ที่ฉีดฟิลเลอร์ ไม่มีความเชี่ยวชาญ เกิดความผิดพลาดฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือดแดง จนทำให้ไปอุดตันเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงดวงตา สามารถทำให้เกิดตาบอดได้

ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายไหม

  • อันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์เกิดขึ้นได้น้อยมาก จะเกิดได้จากการใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานเท่านั้น หากว่าฟิลเลอร์ที่ใช้ได้รับการรับรองจาก อย. และรับบริการจากสถานบริการที่มีคุณภาพการฉีด ฟิลเลอร์คาง จะไม่มีอันตรายใดๆ
  • การฉีดฟิลเลอร์ในประเทศไทย ถือว่าเป็นเทคนิคใหม่ในวงการศัลยกรรมความงาม แต่ในทั่วโลกการใช้สารเติมเต็มฟิลเลอร์ในทางการแพทย์นั้น มีมาเป็นระยะเวลากว่า 50 ปี สารเติมเต็มกลุ่มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) คือสารที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยเพื่อใช้ในการฉีดฟิลเลอร์คาง ทำให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น รูปคางอวบอิ่ม และช่วยปรับรูปของใบหน้าให้เรียวสวย
  • การฉีดฟิลเลอร์ของแท้ที่ปลอดภัย ยังสามารถนำมาใช้ฉีดปรับรูปหน้าบริเวณ ร่องแก้ม คาง จมูก ปาก หน้าผาก เพื่อให้ได้ใบหน้าที่สวยได้รูปและสมส่วน อ่อนวัยได้อย่างเป็นธรรมชาติ ตามต้องการ ซึ่งเห็นผลหลังทำได้ทันที และมีความปลอดภัยสูงไม่อันตราย เมื่อใช้โดยแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมมาตามมาตรฐาน และแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ

การเตรียมตัวก่อนการ ฉีดฟิลเลอร์

  1. งดวิตามิน อาหารเสริม กลุ่มที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น Vitamin E,น้ำมันปลา สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย อย่างน้อยสัก 2 อาทิตย์
  2. งดยาแอสไพริน, NSAIDs อย่างน้อยสัก 2 อาทิตย์
  3. งดดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนทำ
  4. ไม่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
  5. หมายเหตุ กรณีมีโรคประจำตัว หรือแพ้ มียาอื่นใดที่ต้องกินเป็นประจำควรแจ้งข้อมูลกับแพทย์ก่อนทำ

ข้อควรปฏิบัติหลัง ฉีดฟิลเลอร์

  1. หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที หมอจะติดพลาสเตอร์ให้ตามรอยรูเข็ม เมื่อครบ 1 ชม. จึงสามารถแกะออกได้ อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำ
  2. ห้ามแตะ แกะ เกา กดหรือนวดในจุดนั้นๆ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบ อาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นเองในช่วง 2-3 วัน แต่หากเลย 3 วันไปแล้วอาการบวมแดงยังไม่ดีขึ้น ให้รีบแจ้งกลับมาที่ทางคลินิกโดยเร็วที่สุด
  3. ควรงดสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลงหรืออายุการใช้งานของฟิลเลอร์ลดลง
  4. แนะนำให้อยู่ในอากาศเย็น ประคบเย็นเพื่อช่วยลดอาการบวมลงได้เร็วขึ้นในบางเคส ที่ปวดมากสามารถกินยาแก้ปวดที่ทางคลินิกให้ไปได้

บทสรุป การฉีดฟิลเลอร์ที่ภูเก็ต โดยสยามคลินิก

  • ฟิลเลอร์ เป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีตามธรรมชาติ ช่วยลดริ้วรอยร่องลึกดูตื้นและนูนขึ้น และเป็นการเติมใยคอลลาเจนให้ดูอิ่มเอิบ อ่อนเยาว์กว่าวัย จากข้อมูลที่กล่าวมาแล้วก็จะเห็นแล้วว่าการฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นความสวยที่สั่งได้แทบจะทั้งร่างกายเราเลยทีเดียว
  • อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ใช้  ฟิลเลอร์ แล้วเกิดผลเสียก็มีไม่น้อย ดังนั้น ผู้ที่คิดจะทำศัลยกรรมด้วยวิธีนี้ จึงควรพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจ และควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาจะดีที่สุด

 

รีวิวเคสคนไข้ที่ได้รับการ ฉีดฟิลเลอร์ที่ภูเก็ต โดยสยามคลินิก



ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต