โรคหยุดหายใจขณะหลับที่มาร่วมกับอาการนอนกรนเป็นโรคที่อันตราย และควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้อาจให้คนใกล้ชิดที่นอนด้วยช่วยกันสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้น หรือทำ Home Sleep Test เพื่อจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
การตรวจการนอนหลับ (Sleep Test) คืออะไร?
Sleep Test หรือที่เรียกว่าการตรวจการนอนหลับ เป็นกระบวนการที่ใช้เพื่อวัดและประเมินคุณภาพการนอนหลับของบุคคล ซึ่งมักจะใช้ในการวินิจฉัยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ เช่น ภาวะนอนกรน (Insomnia) หรือภาวะตื่นตอนกลางคืน (Sleep Apnea) ซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพทั่วไปและคุณภาพชีวิตของบุคคล
การตรวจการนอนหลับทั่วไปใช้เครื่องมือที่อยู่ในรูปแบบของอุปกรณ์ที่สวมใส่ในระหว่างการนอน เช่น อุปกรณ์ตรวจการหายใจในระหว่างการนอน (Polysomnography) ซึ่งประกอบด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อวัดการหายใจ การหมุนตัว ระดับความออกซิเจนในเลือด รวมถึงกิจกรรมสมองและการเคลื่อนไหวของตาในระหว่างการนอน นอกจากนี้ยังมีการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ต้องสวมใส่เพื่อวัดระดับความหลับและการตื่นของผู้รับการทดสอบ
การตรวจการนอนหลับช่วยให้แพทย์สามารถประเมินและวินิจฉัยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับได้ ซึ่งจะช่วยในการกำหนดการรักษาที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มคุณภาพการนอนหลับและสุขภาพทั่วไป
ควรตรวจการตรวจการนอนหลับเมื่อไหร่?
Sleep Test ควรตรวจเมื่อมีอาการหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพของคุณ นอกจากนี้ยังมีบางกรณีที่อาจต้องทดสอบการนอนหลับแม้ในกรณีที่ไม่มีอาการเหล่านั้น ตัวอย่างเช่น:
- ภาวะนอนกรน (Insomnia): หากคุณมีปัญหาในการหลับหรือตื่นตอนกลางคืนบ่อยๆ และมีอาการผิดปกติตลอดวัน เช่น ความเหนื่อยล้า ขากรรไกร ความเครียด ความรู้สึกไม่ดี การทดสอบการนอนหลับอาจช่วยในการวินิจฉัยและกำหนดการรักษาให้เหมาะสม
- ภาวะตื่นตอนกลางคืน (Sleep Apnea): หากคุณมีอาการหายใจขาดหายใจระหว่างการนอน อาจรู้สึกตื่นขึ้นมาบ่อยๆ หรือหลับไม่หล่อน การทดสอบการนอนหลับอาจช่วยวินิจฉัยว่าคุณมีภาวะนี้หรือไม่ และจะช่วยในการกำหนดการรักษา เช่น การใช้เครื่องช่วยหายใจระหว่างการนอน
- การเจ็บป่วยในระหว่างการนอน (Sleep-related Disorders): หากคุณมีอาการเจ็บป่วยหรืออาการผิดปกติในระหว่างการนอน เช่น การสะสมสิ่งคาดหวังหรือทำความเครียดในสถานการณ์การนอนหลับ การทดสอบการนอนหลับอาจช่วยวินิจฉัยและกำหนดการรักษาให้เหมาะสม
ประโยชน์ของการตรวจการนอนหลับ
การทำ Sleep Test มีประโยชน์ต่อการวินิจฉัยและรักษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับของบุคคล ต่อไปนี้คือประโยชน์ที่สำคัญของการทำ Sleep Test:
- วินิจฉัยภาวะการนอนกรน (Sleep Apnea): Sleep Test ช่วยในการตรวจวัดและวินิจฉัยภาวะการหายใจไม่ได้ระหว่างการนอนหลับ (sleep apnea) ซึ่งเป็นสภาวะที่เกี่ยวข้องกับการหลับในระยะเวลาสั้นๆ และสามารถระบุระดับความรุนแรงของการหายใจไม่ได้ในระหว่างการนอน
- วินิจฉัยภาวะนอนกรน (Insomnia): การทำ Sleep Test ช่วยในการวินิจฉัยภาวะนอนกรน (insomnia) ซึ่งเป็นภาวะที่มีปัญหาในการหลับหรือตื่นตอนกลางคืนบ่อยๆ และสามารถวัดคุณภาพการนอนของบุคคลได้อย่างละเอียด
- วินิจฉัยภาวะการนอนในกลุ่มเสี่ยง: Sleep Test ช่วยในการตรวจวัดและวินิจฉัยภาวะการนอนในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ที่มีประวัติความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือภาวะอ้วน
- วิเคราะห์และวินิจฉัยปัญหาการนอนหลับอื่นๆ: Sleep Test ช่วยในการวินิจฉัยและวิเคราะห์ปัญหาการนอนหลับอื่น ๆ เช่น การเจ็บป่วยในระหว่างการนอน (sleep-related disorders), อาการเหนื่อยล้าและไม่ได้พักผ่อนในเวลาการนอนหลับ
การตรวจการนอนหลับที่บ้าน (Home Sleep Test) / โรงแรม (Hotel Sleep Test)
การตรวจการนอนหลับที่บ้าน (Home Sleep Test) / โรงแรม (Hotel Sleep Test) เหมือนหรือแตกต่างจากการตรวจในโรงพยาบาลอย่างไร
- สถานที่: การทำ Home Sleep Test จะทำในสภาพแวดล้อมที่คุณรู้จักและสบายกว่า คุณจะตรวจการนอนหลับได้ในบ้านของคุณเอง ไม่ต้องเข้าพักในโรงพยาบาล ซึ่งอาจช่วยลดความเครียดและความไม่สะดวกสบายที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยในโรงพยาบาล
- การตรวจวัด: Home Sleep Test ใช้อุปกรณ์ตรวจวัดที่คล้ายกับหน้ากากหรืออุปกรณ์เครื่องประเมินการหลับในชั่วโมงปกติ ซึ่งใช้เซ็นเซอร์และเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อวัดและบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น ระดับออกซิเจนในเลือด การหายใจ การหลับดึก และการเคลื่อนไหวของร่างกายระหว่างการนอนหลับ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มีขนาดเล็กและสามารถพกพาได้ง่าย
- ความสะดวกสบาย: การทำ Home Sleep Test ให้คุณสามารถนอนในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยและสบายๆ ได้ ไม่ต้องมีผู้ปฏิบัติงานดูแลตลอดเวลาเหมือนในโรงพยาบาล นอกจากนี้คุณยังสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักในโรงพยาบาล
ข้อดีของการตรวจการนอนหลับที่บ้าน (Home Sleep Test) /โรงแรม (Hotel Sleep Test)
- มักมีราคาถูกกว่าการตรวจในโรงพยาบาล
- ผู้ป่วยสามารถนอนหลับได้ผ่อนคลายและสนิทมากกว่า เนื่องจากได้นอนในห้องนอนของตัวเอง
- มีความเป็นส่วนตัวเพราะไม่ต้องมีคนเฝ้าดูเราตอนนอน บางท่านอาจนอนไม่หลับหากมีคนมานอนเฝ้า
- ผลการตรวจที่ได้มีความแม่นยำ และใกล้เคียงกับการนอนในภาวะปกติของเรามากที่สุด
- บางท่านนอนไม่หลับ หรือหลับได้ไม่นาน หรือนอนหลับไม่ต่อเนื่อง ทำให้ผลตรวจมีความคลาดเคลื่อน บางกรณีอาจต้องทำการตรวจใหม่อีกครั้ง ทำให้เสียเงินเพิ่มมากขึ้น
- ท่านสามารถนำผลตรวจที่ได้รับ ไปปรึกษาแพทย์ในโรงพยาบาลตามที่ท่านต้องการได้ แต่หากท่านตรวจในโรงพยาบาลท่านก็จะต้องพบแพทย์ในโรงพยาบาลนั้นๆเท่านั้น
- ไม่ต้องรอคิวตรวจนาน ในโรงพยาบาลของรัฐบางแห่งมีคิวรอตรวจนานหลายเดือน ซึ่งในบางกรณีผู้ป่วยไม่สามารถรอได้ เช่น ผู้ป่วยมีโรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่ต้องได้รับการตรวจอย่างเร่งด่วน
- ผู้ป่วยบางท่านไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้หรือเคลื่อนย้ายไม่สะดวก เช่น เป็นโรคอัมพฤกษ์อัมพาต ไม่แข็งแรง หรืออายุมาก เป็นต้น การตรวจการนอนหลับที่บ้านจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมในกรณีนี้
การเตรียมตัวก่อนตรวจการนอนหลับที่บ้าน (Home Sleep Test) / โรงแรม (Hotel Sleep Test)
- อาบน้ำสระผมให้สะอาดก่อนมาเข้ารับการตรวจ และไม่ใช้น้ำมันสเปรย์ใส่ผม
- งดการหลับในเวลากลางวัน ถ้าไม่ใช่สิ่งที่เคยทำประจำ
- ก่อนการตรวจ 5 ชั่วโมง ผู้ป่วยควรดื่มน้ำให้น้อยลง และรับประทานอาหารเย็นให้เรียบร้อยก่อนมาตรวจ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการตรวจ 24 ชั่วโมง
- งดดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มกระตุ้นประสาทก่อนเข้ารับการตรวจอย่างน้อย 12 ชั่วโมง
- ถ้ามียาที่ต้องทานเป็นประจำควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าจำเป็นต้องงดหรือไม่
- ผู้ชายควรโกนหนวดให้เรียบร้อยก่อนมาตรวจ ผู้หญิงควรงดแต่งหน้าและทาเล็บ
การตรวจการนอนหลับที่บ้านหรือโรงแรม นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีอาการนอนกรน และสงสัยว่าจะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เพราะมีข้อดีต่างๆ มากมาย เช่น ราคาประหยัด ไม่ต้องรอคิวนาน นอนหลับได้สนิทมากกว่าเพราะได้นอนในสถานที่ที่คุ้นเคย ทำให้ผลการตรวจใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากกว่า
แต่อย่างไรก็ดี การตรวจแต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนตัดสินใจท่านควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับก่อน เพื่อให้แพทย์ประเมินและเป็นผู้พิจารณาว่าท่านควรจะรับการตรวจแบบไหนต่อไป
โปรแกรมตรวจสุขภาพอื่นๆ
ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต
- ติดต่อเราได้ที่ สยามคลินิก ชั้น 1 ห้าง บิ๊กซี ภูเก็ต
- แผนที่ : https://g.page/SiamClinicPhuket
- โทรศัพท์ : 088-488-6718 และ 093-692-5999
- Email : [email protected]
- Facebook inbox : https://m.me/siamclinicthailand
- Instagram : https://www.instagram.com/siamclinic
- Line@ : @siamclinic หรือแอด https://lin.ee/uny1D7n