การรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วย เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells Therapy), ฮอร์โมน (Hormone Therapy) และคลื่นกระแทก (Shockwave Therapy)
การรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้รับความสนใจและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย เช่น เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells Therapy), ฮอร์โมน (Hormone Therapy) และคลื่นกระแทก (Shockwave Therapy) เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิผลสูงและลดผลข้างเคียง
โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือโรค ED (Erectile Dysfunction)
โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือโรค ED คือภาวะที่ผู้ชายไม่สามารถทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวหรือรักษาสภาวะแข็งตัวได้เพื่อการมีเพศสัมพันธ์ที่เพียงพอ โรคนี้เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มที่มีอายุมากขึ้น
โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ สาเหตุเกิดจากอะไร?
การเร้าอารมณ์ทางเพศชายเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนซึ่งเกี่ยวข้องกับ สมอง ฮอร์โมน อารมณ์ เส้นประสาท กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด การหย่อนสมรรถภาพทางเพศอาจเกิดจากปัญหาเหล่านี้ ในทำนองเดียวกัน ความเครียดและความกังวลเรื่องสุขภาพจิตสามารถทำให้เกิดหรือทำให้หย่อนสมรรถภาพทางเพศแย่ลงได้เช่นกัน ซึ่งสามารถแบ่งตามสาเหตุต่างๆได้ดังนี้
- สาเหตุทางกายภาพ ได้แก่ โรคหัวใจ หลอดเลือดอุดตัน (หลอดเลือด) คอเลสเตอรอลสูง ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคพาร์กินสัน การสูบบุหรี่ โรค Peyronie’s disease — เป็นโรคที่เกิดพังผืดภายในองคชาต โรคพิษสุราเรื้อรังและการใช้สารเสพติดในรูปแบบอื่นๆ ความผิดปกติของการนอนหลับ การรักษามะเร็งต่อมลูกหมากหรือต่อมลูกหมากโต การผ่าตัดหรือการบาดเจ็บที่ส่งผลต่อบริเวณอุ้งเชิงกรานหรือไขสันหลัง ภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ
- สาเหตุทางจิตใจ เช่น ผู้ที่มีอาการซึมเศร้า วิตกกังวล หรือภาวะสุขภาพจิตอื่นๆ ความเครียด หรืออาจมีปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างคู่ อันเนื่องมาจากความเครียด การสื่อสารที่ไม่ดี ความกังวล เป็นต้น
เมื่อใดควรไปพบแพทย์?
เมื่อมีอาการดังต่อไปนี้ ท่านควรปรึกษาแพทย์ ได้แก่
- คุณมีความกังวลเกี่ยวกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศ (Erectile Dysfunction) หรือคุณกำลังประสบปัญหาทางเพศอื่นๆ เช่น การหลั่งเร็วหรือล่าช้า (Premature Ejeculation or Delayed Ejeculation)
- คุณเป็นโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือภาวะสุขภาพอื่นๆ ที่อาจเชื่อมโยงกับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
- คุณมีอาการอื่นควบคู่ไปกับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
การรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells Therapy) สำหรับโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ :
การรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิดถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในการฟื้นฟูและรักษาเนื้อเยื่อที่เสียหาย โดยเฉพาะในการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เซลล์ต้นกำเนิดสามารถเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและฟื้นฟูเนื้อเยื่อในบริเวณอวัยวะเพศ ทำให้การทำงานของอวัยวะเพศดีขึ้น
การรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิดเป็นการใช้เซลล์ที่มีศักยภาพในการซ่อมแซมและเสริมสร้างเนื้อเยื่อ สำหรับ ED, เซลล์ต้นกำเนิดอาจช่วยในการซ่อมแซมและฟื้นฟูเนื้อเยื่อและหลอดเลือดในอวัยวะเพศชาย ซึ่งอาจนำไปสู่การกลับมามีฟังก์ชันการทำงานทางเพศที่ปกติ ในส่วนนี้จะมีการอธิบายถึงประเภทของเซลล์ต้นกำเนิดที่ใช้ แหล่งที่มาของเซลล์ และวิธีการนำเซลล์เหล่านี้มาใช้ในการรักษา ED
สเต็มเซลล์ (Stem Cell) คืออะไร ?
Stem Cell (สเต็มเซลล์) เป็นเซลล์ต้นแบบที่มีศักย์ภาพในการพัฒนาเป็นเซลล์ทุกชนิดภายในร่างกาย เรียกได้ว่าเป็นเซลล์หน้าที่ “ไม่มีรูปแบบเฉพาะเจาะจง” โดยมีลักษณะที่สำคัญคือการสามารถทำซ้ำตัวเองได้และสามารถแบ่งเซลล์เป็นเซลล์ย่อยๆ ไปพัฒนาเป็นเซลล์สามารถทำหน้าที่แทนที่เซลล์ที่เสียหายได้ เช่น เซลล์ผิวหนัง ประสาท กล้ามเนื้อ เป็นต้น
นอกจากนี้ในปัจจุบันสเต็มเซลล์ได้นำมาใช้ด้านการชะลอวัย ความสวยความงามบนใบหน้า รวมถึงนำไปรักษาโรคบางกลุ่ม บางชนิด หรือภาวะต่าง ๆ ที่เกิดจากความเสื่อมได้อีกด้วย
การเก็บ สเต็มเซลล์ (Stem Cell) เก็บจากส่วนใดได้บ้าง?
ในการเก็บสเต็มเซลล์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในอนาคตนั้น จะสามารถเลือกจัดเก็บจากแหล่งต้นกำเนิดที่แตกต่างกันตามผู้รับประโยชน์ที่ต้องการนำไปใช้ในอนาคต และมีราคาการเก็บสเต็มเซลล์ที่แตกต่างกันไปด้วย
- ไขมัน : Stem Cell จากไขมันเรียกว่า Adipose-Derived Stem Cell (ADSC) เป็น Stem Cell ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันเนื่องจากเป็นวิธีการเก็บที่ง่ายและสะดวก ไม่มีอันตรายและไม่จำเป็นต้องเข้ารักษาในห้องปฏิบัติการ เหมาะสำหรับใช้ในการรักษาโรคและใช้ในการป้องกันเนื่องจาก Stem Cell จากไขมันสามารถแยกจากไขมันบริเวณท้องที่ไม่จำเป็นต้องใช้กระบวนการเลือกสรรเซลล์แบบเฉพาะเจาะจงอย่าง Embryonic Stem Cell (ESC) ทำให้ป้องกันการเกิดปัญหาความเสี่ยงในกระบวนการเก็บเหมือนกัน
- เลือด : Stem Cell จากเลือดเรียกว่า Hematopoietic Stem Cell (HSC) เป็น Stem Cell ที่สามารถก่อตัวเป็นเซลล์เลือดต่าง ๆ ได้ เช่น เม็ดเลือดแดง มะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นต้น
- เนื้อเยื่อ : Stem Cell จากเนื้อเยื่อเรียกว่า Mesenchymal Stem Cell (MSC) เป็น Stem Cell ที่สามารถก่อตัวเป็นเนื้อเยื่อต่าง ๆ ได้ เช่น เนื้อเยื่อกระดูก กล้ามเนื้อ เป็นต้น
การรักษาด้วยฮอร์โมน (Hormone Therapy) สำหรับโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ :
การรักษาด้วยฮอร์โมนเป็นวิธีที่ใช้ในการปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งสามารถช่วยในการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ การเพิ่มหรือปรับสมดุลของฮอร์โมนบางชนิด เช่น เทสโทสเตอโรน, สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและความแข็งแรงของอวัยวะเพศ
การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shockwave Therapy) สำหรับโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ :
คลื่นกระแทกเป็นเทคนิคที่ใช้คลื่นพลังงานสูงเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ มีการใช้คลื่นกระแทกในการรักษาหย่อนสมรรถภาพทางเพศโดยการกระตุ้นเนื้อเยื่อในอวัยวะเพศ ส่งผลให้เกิดการฟื้นฟูและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด
การรักษาด้วยเทคนิคเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลและคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น การรักษาแต่ละวิธีมีความเฉพาะเจาะจงและต้องประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
โรคที่ผู้ชายทุกคนจะอายและไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ ปัจจุบันนี้ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวไกลโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศไม่ได้เป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะ เครื่อง Richard Wolf PiezoWave2 จากประเทศ Germany สามารถสร้างคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในระบบ Smart Focus Energy
นวัตกรรมใหม่นี้จะช่วยควบคุมระดับพลังงานและความเข้มของคลื่นให้ตรงลึกไปยังเนื้อเยื่อที่เป็นเป้าหมายทั้งองคชาตกระตุ้นหลอดเลือดภายในให้ขยายตัวเปลี่ยนจากสภาพมะเขือเผาให้กลับมาแข็งได้ตามใจปรารถนาอีกครั้ง
การบำบัดด้วยคลื่นกระแทกสำหรับ ED:
การบำบัดด้วยคลื่นกระแทกเป็นขั้นตอนที่ไม่ต้องผ่าตัด ใช้คลื่นเสียงเพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมและการเติบโตของหลอดเลือดในเนื้อเยื่ออวัยวะเพศชาย ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและการทำงานทางเพศ ในส่วนนี้จะอธิบายขั้นตอนการรักษา โปรไฟล์ความปลอดภัย และประสิทธิผลตามข้อมูลวิจัยที่มีอยู่
หลักการการทำงานของเครื่อง Richard Wolf PiezoWave2
- หลายท่านคงรู้จักการรักษาด้วย shock wave มาบ้างแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาอาการบาดเจ็บตามเนื้อเยื้อจากการกีฬา โดยหลักการคือการปล่อยคลื่นshock wave (คลื่นเสียงที่มีความเข้มต่ำแบบแรงกระแทก) ไปบริเวณที่บาดเจ็บ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเส้นเลือดใหม่ (angiogenesis) ทำให้การฟื้นฟู ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
- ในการนำ Shock wave มาใช้ในการรักษาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศก็เช่นเดียวกัน Low-Intensity Shock wave Therapy คือ เป็นการปล่อยคลื่นเสียงที่มีความเข้มต่ำ (shock wave) แบบแรงกระแทกจากภายนอก ไปยังลำของอวัยวะเพศ (Shaft) ตามจุดที่กำหนดไว้ เพื่อกระตุ้นให้บริเวณดังกล่าวสร้างเส้นเลือดขึ้นใหม่ ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะเพศมากขึ้น ส่งผลให้มีการแข็งตัวที่ดีขึ้น
- ระยะเวลาในการทำต่อครั้งประมาณ 15-20 นาที/สัปดาห์ โดยทำ 5 -10 ครั้ง หรือ สัปดาห์ละครั้ง นาน 5-10 สัปดาห์ สามารถทำให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่(Angiogenesis)และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งมีผลทำให้การแข็งตัวของอวัยวะเพศดีขึ้นจากการกระตุ้นหลอดเลือดที่มีอยู่แล้ว
ขั้นตอนการทำ Shockwave
- เริ่มจากการกระตุ้นบริเวณต่างๆของอวัยวะเพศเพื่อให้ครอบคลุมบริเวณที่เรียกว่า “corpus cavernosum” ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อภายในอวัยวะเพศ การทำ Shockwave สามารถใช้ได้จำนวนสูงสุด 5,000 shots กระตุ้นบริเวณอวัยวะเพศ 5 ตำแหน่งเพื่อครอบคลุมทั่วทั้งบริเวณของอวัยวะเพศและกล้ามเนื้อรอบๆที่เกี่ยวข้อง
- คนไข้ที่ได้รับการรักษาไปแล้วให้คะแนนความพึงพอใจหลังการรักษาเพิ่มขึ้นถึง 7 points ตามหลักการของ IIEF (International Index of Erectile Function)
- นอกจากนั้นการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้นยังสามารถวัดได้จากผลการวิเคราะห์ต่างๆและคนไข้ส่วนใหญ่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ปกติหลังได้รับการรักษา 5 ครั้ง และผลการรักษาดังกล่าวอยู่ได้นานถึง 6 สัปดาห์ โดยอาจแตกต่างกันได้ในคนไข้แต่ละราย
ต้องรับการรักษาบ่อยแค่ไหน
- ในการรักษาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วยวิธี Low-Intensity Shock wave Therapy จะใช้เวลาในการรักษา ประมาณครั้งละ 30 นาที โดยทำวันเว้นวัน หรือ อาจเป็นวันเว้น 2วัน แต่ไม่แนะนำให้รับการรักษาติดต่อกันทุกวัน หรือห่างเกิน 2 วัน รวมจำนวน 5 -7 ครั้ง แล้วแต่ดุลยพินิจของแพทย์
- ในระหว่างรับการักษาไม่จำเป็นต้องวางยาสลบ หรือ ให้ยาแก้ปวดแต่อย่างใด ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล รวมทั้งสามารถปฏิบัติกิจกรรมทางเพศได้หลังการรักษาภายในวันเดียวกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องงดกิจกรรมแต่อย่างใด
การรักษาโดยใช้เครื่องมือ Shockwave
เป็นวิธีที่ง่ายเนื่องจากคนไข้จะไม่เจ็บปวด ไม่รู้สึกเขินอายและเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากสามารถช่วยให้คนไข้มีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นและได้ผลในระยะยาวและที่สำคัญที่สุดคือช่วยเพิ่มความมั่นใจและความสุขในการใช้ชีวิต
การรวม 3 เทคโนโลยีการรักษา: เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells Therapy), ฮอร์โมน (Hormone Therapy) และคลื่นกระแทก (Shockwave Therapy) สำหรับโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
การหย่อนสมรรถภาพทางเพศเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตคู่และคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย การรวมกันของเทคโนโลยีการรักษา 3 แบบ ได้แก่ เซลล์ต้นกำเนิด, ฮอร์โมน และคลื่นกระแทก นับเป็นก้าวที่สำคัญในการรักษาโรคนี้
1. เซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells Therapy)
การรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิดในโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศเน้นไปที่การฟื้นฟูและการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ในอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นการรักษาที่ต้องการความเชี่ยวชาญสูง มีการใช้เซลล์ต้นกำเนิดจากตัวผู้ป่วยเองหรือจากแหล่งอื่น เช่น เซลล์ต้นกำเนิดจากไขกระดูกหรือไขมัน โดยเซลล์เหล่านี้จะถูกปลูกถ่ายเข้าไปในบริเวณที่ต้องการการฟื้นฟู
2. ฮอร์โมน (Hormone Therapy)
การรักษาด้วยฮอร์โมนมุ่งเน้นที่การปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย เพื่อปรับปรุงการทำงานของอวัยวะเพศและเพิ่มความแข็งแรงของมัน การให้ฮอร์โมน เช่น เทสโทสเตอโรน ในผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนต่ำ สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและส่งเสริมการฟื้นฟูของเนื้อเยื่ออวัยวะเพศ
3. คลื่นกระแทก (Shockwave Therapy)
คลื่นกระแทกเป็นการรักษาที่ใช้คลื่นพลังงานสูงส่งผ่านผิวหนังไปยังอวัยวะเพศ เพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูเนื้อเยื่อและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด วิธีนี้มักใช้ในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาหรือมีผลข้างเคียงจากการใช้ยา
การรวมการรักษาทั้งสามแบบเป็นการประสานงานระหว่างเทคนิคต่างๆ ที่สามารถเพิ่มประสิทธิผลและลดการพึ่งพายาประเภทอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเลือกใช้การรักษาดังกล่าวควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัยในแต่ละกรณี รวมถึงต้องมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับเปลี่ยนแผนการรักษาตามความต้องการและการตอบสนองของแต่ละบุคคล
การรวมกันของเทคนิคเหล่านี้สามารถทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ตอบสนองกับการรักษาแบบเดี่ยวๆ อย่างไรก็ตาม การใช้วิธีการรวมกันนี้ต้องอาศัยคำแนะนำและการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัยในแต่ละกรณี
ข้อดีของการมารักษาที่ Siam Clinic Phuket
- รักษา ฟื้นฟู ปัญหาเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศได้อย่างตรงจุด และยังทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นด้วย
- ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยนี้ ส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้น้อยมาก หรือไม่ส่งผลข้างเคียงใดๆเลย
- รักษาที่ต้นเหตุการตรวจประเมินร่างกาย และรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะทำให้สามารถรักษาได้อย่างตรงจุด และป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้นในอนาคตได้
- ลดความเสี่ยงการเกิดโรคในอนาคตสามารถลดโอกาสการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบไหลเวียนเลือดต่างๆในอนาคตได้เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ
- มีความปลอดภัยด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย ด้วยมาตรฐานโรงพยาบาล และทำการรักษาด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จึงมั่นใจในผลการรักษาได้
- ดูแลให้คำแนะนำ พร้อมวางแผนการรักษาในระยะยาว ให้ทุกคนได้สุขภาพดี แข็งแรงสมวัย และกลับไปดูแลตัวเองต่อที่บ้านได้
บทความอื่นๆ
- ทำความรู้จัก เซลล์ต้นกำเนิดชนิดมีเซนไคม์ (MSCs) ตัวช่วยในการฟื้นฟูคืนความอ่อนเยาว์
- ผิวสวยด้วยวิตามินดี
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าตอบ บอกลาหน้าแก่
- ฉีดวิตามินผิวใส (Vitamin Drip) ผิวใส ผิวขาว ผิวเนียนสวย แบบทันใจ
ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต
- ติดต่อเราได้ที่ สยามคลินิก ชั้น 1 ห้าง บิ๊กซี ภูเก็ต
- แผนที่ : https://g.page/SiamClinicPhuket
- โทรศัพท์ : 088-488-6718 และ 093-692-5999
- Email : [email protected]
- Facebook inbox : https://m.me/siamclinicthailand
- Instagram : https://www.instagram.com/siamclinic
- Line@ : @siamclinic หรือแอด https://lin.ee/uny1D7n
- Youtube : Siam Clinic สยามคลินิก คลินิกความงามภูเก็ต – YouTube