เสริมจมูก
ศัลยกรรมเสริมจมูกมีกี่แบบ
ปีกจมูก
ปีกจมูกควรตัดจากด้านในหรือด้านนอก
ชนิดของซิลิโคน
ตำแหน่งของแผล
- แผลที่ซ่อนในรูจมูก ส่วนมากจะไม่มีแผลให้เห็นจากด้านนอก ศัลยแพทย์จะใช้ไหมละลายในการเย็บ ซึ่งไหมจะหลุดเองใน 3 อาทิตย์
- แผลที่ด้านนอกจมูก สำหรับกรณีที่แก้ไขปลายจมูกด้วยการใช้กระดูกออกจากใบหูในการแก้จมูกสามารถทำได้ทั้งแผลด้านนอก และในรูจมูก
การผ่าตัดแบบปิด
การเสริมจมูกปิด (Close Technique) เราจะใช้วิธีการผ่าตัดเปิดแผลด้านในจมูก และใส่ซิลิโคนเข้าไป ซึ่งวิธีการเสริมจมูกแบบปิดนั้น จะเปิดแผลเล็กมาก แค่ 3 มิลลิเมตรเท่านั้นค่ะ หมดกังวลเรื่องรอยแผลเป็นไปได้เลย
เสริมจมูกแบบ Close เหมาะกับใคร
ต้องบอกเลยว่าวิธีการเสริมจมูกแบบปิดนั้น เหมาะกับคนที่ไม่มีปัญหาด้านโครงสร้างจมูกมากนัก ซึ่งปัญหาโครงสร้างที่ว่า อย่างเช่น กระดูกจมูกคดเอียง ปัญหานี้จะไม่สามารถแก้ไขด้วยการเสริมจมูกแบบปิดได้
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบ Close
การผ่าตัดแบบเปิด
หรือที่คุ้นกันในชื่อ “เสริมจมูกแบบโอเพ่น” ซึ่งเป็นเสริมจมูกโดยการเข้าไปปรับโครงสร้างภายใน เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดในส่วนที่การเสริมจมูกแบบ Close ไม่สามารถทำได้ เช่น การตอกฐานจมูก การยืดผนังกั้นจมูกในคนที่มีจมูกสั้น หรือจมูกคดเอียง เป็นต้น
เสริมจมูกแบบ Open เหมาะกับใคร
การเสริมจมูกแบบ Open เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาโครงสร้างจมูกอย่างตรงจุด ซึ่งเป็นเสริมจมูกโดยการเข้าไปปรับโครงสร้างภายใน ที่การเสริมจมูกแบบ Close ไม่สามารถทำได้ เช่น การตอกฐานจมูก การยืดผนังกั้นจมูกในคนที่มีจมูกสั้น หรือจมูกคดเอียง เป็นต้น
ข้อดีของการเสริมจมูกแบบ Open
การถ่ายภาพ ในการวางแผนการผ่าตัด จะต้องมีการถ่ายภาพจมูกของผู้เข้ารับการผ่าตัดจากมุมต่าง ๆ จากนั้นศัลยแพทย์จะนำภาพเข้าคอมพิวเตอร์เพื่อจำลองผลจากการศัลยกรรมให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดได้ทราบว่า หากทำการผ่าตัดแล้วจะได้ผลอย่างไร โดยศัลยแพทย์จะใช้ภาพถ่ายเพื่อเปรียบเทียบทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด รวมทั้งใช้อ้างอิงในขณะการผ่าตัดและในระยะยาวด้วย
ความคาดหวังของผู้เข้ารับการผ่าตัด แพทย์และผู้เข้ารับการผ่าตัดจำเป็นที่จะต้องพูดคุยกันถึงความค าดหวังที่จะได้รับจากการผ่าตัดศัลยกรรม โดยแพทย์จะแนะนำว่าการทำจมูกแบบใดที่สามารถทำได้หรือทำไม่ได้ และผลที่จะได้เป็นอย่างไร ซึ่งผู้เข้ารับการผ่าตัดจะต้องมีความมั่นใจที่จะพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตนเอง และควรเปิดใจกับศัลยแพทย์ถึงความต้องการ ซึ่งบางครั้งแพทย์อาจแนะนำให้ทำศัลยกรรมส่วนอื่นบนใบหน้าเพิ่มเติมเพื่อให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น
นอกจากนี้ ก่อนเข้ารับการผ่าตัดควรงดใช้ยาแก้ปวด อาทิ ยาแอสไพริน หรือไอบูโพรเฟนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะยาเหล่านี้อาจทำให้เลือดไหลออกมากกว่าที่ควรจะเป็นในระหว่างการผ่าตัด
หากจำเป็นต้องใช้ยาควรเป็นยาที่แนะนำโดยศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดให้เท่านั้น และควรงดหรือเลิกสูบบุหรี่ เพราะสารพิษในบุหรี่จะทำให้กระบวนการในการรักษาตัวของการผ่าตัดเป็นไปได้ช้าลง และอาจทำให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น
การเตรียมตัวก่อนการศัลยกรรมเสริมจมูก
ขั้นตอนการทำศัลยกรรมเสริมจมูก
หากเป็นการเสริมขึ้นเพียงเล็กน้อย ศัลยแพทย์อาจนำกระดูกอ่อนจากด้านในของจมูก หรือนำกระดูกอ่อนจากใบหูมาเป็นวัสดุเสริม แต่หากต้องการเสริมมากขึ้น อาจต้องใช้กระดูกอ่อนที่ปลูกถ่ายกระดูกจากบริเวณซี่โครง หรือกระดูกอ่อนจากส่วนอื่น ๆ ในร่างกาย หรือในบางกรณีก็อาจใช้วัสดุสังเคราะห์ที่ใช้สำหรับการศัลยกรรม เช่น ซิลิโคน เป็นต้น
การศัลยกรรมเสริมจมูกจำเป็นจะต้องใช้ยาชา เฉพาะที่ร่วมกับยากล่อมประสาทหรือยาสลบ ซึ่งการเลือกใช้ยาดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนในการผ่าตัด และความชำนาญของศัลยแพทย์ ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ล่วงหน้าถึงประเภทของยาชาที่ใช้ เพื่อให้แพทย์พิจารณาว่ายาชาประเภทใดเหมาะกับผู้เข้ารับการผ่าตัดมากที่สุด
ยาชาเฉพาะที่ร่วมกับยากล่อมประสาท ยาชาชนิดนี้มักจะใช้ในผู้เข้ารับการผ่าตัดแบบผู้ป่วยนอก มีพื้นที่ในการผ่าตัดที่จำกัด โดยแพทย์จะฉีดยาแก้ปวดและยาแก้ปวดและยาชาที่บริเวณเนื้อเยื่อตรงจมูก และให้ยากล่อมประสาทผ่านทางเส้นเลือด วิธีนี้จะทำให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดอยู่ในลักษณะครึ่งหลับครึ่งตื่น
ยาสลบ ยาสลบจะถูกให้ด้วยการดมหรือผ่านทางสายน้ำเกลือเล็ก ๆ ที่ติดอยู่บริเวณฝ่ามือ โดยยาสลบจะส่งผลต่อร่างกายและทำให้หมดสติ วิธีนี้จำเป็นต้องมีการใส่ท่อช่วยหายใจในระหว่างการผ่าตัดด้วย
ทั้งนี้หลังจากการผ่าตัด ผู้เข้ารับการผ่าตัดจะถูกนำไปยังห้องพักฟื้น ซึ่งเจ้าหน้าจะคอยเฝ้าดูระดับการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย และรอให้ผู้เข้ารับการผ่าตัดรู้สึกตัว โดยผู้เข้ารับการผ่าตัดอาจสามารถกลับบ้านได้ภายในวันเดียวกัน หรือหากมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ก็จำเป็นจะต้องค้างคืนเพื่อรอดูอาการอื่น ๆ ต่อไป
การดูแลตัวเองหลังศัลยกรรมเสริมจมูก
- ประคบเย็น 4-5 วันหลังผ่าตัด เพื่อให้เลือดหยุดไหล หากไม่ประคบเย็นจะทำให้เกิดเลือดออกและมีพังผืดเกิดขึ้น ส่งผลให้จมูกเบี้ยวได้
- ดูแลแผลในโพรงจมูกด้วยไม้พันสำลีเช็ดน้ำเกลือ อย่าใช้แอลกอฮอล์ เบตาดีน หรือยาฆ่าเชื้อโรคที่แสบรุนแรง
- หลีกเลี่ยงการไปในที่ที่มีฝุ่นละอองมากประมาณ 1 สัปดาห์ ป้องกันการไอหรือจาม
- พบแพทย์ตามนัดเพื่อตัดไหม
- สามารถนอนตะแคงได้ ไม่ทำให้ซิลิโคนเคลื่อนที่ เพราะโดยปกติแล้วแพทย์จะทำการติดเทปเอาไว้เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่อยู่แล้ว แต่ให้หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ตนเองแพ้ และอาหารที่ทำให้หน้าบวมแดง เช่น อาหารที่ร้อนจัด อาหารที่มีรสเผ็ด อาหารรสเค็ม แอลกอฮอล์ บุหรี่ เป็นต้น
ข้อควรระวังในการศัลยกรรมเสริมจมูก
ลักษณะของจมูกเบี้ยว
- โคนเอียง
- ปลายเอียง
- แท่งเอียงทั้งหมด
อาการแทรกซ้อนหลังศัลยกรรมเสริมจมูก
ซิลิโคนทะลุ มีสาเหตุมาจากการเสริมแท่งซิลิโคนที่ขนาดใหญ่เกินไปหรือซิลิโคนอยู่ในช่องที่ไม่มั่นคง ทำให้เลื่อนไปมาและเกิดการทะลุได้ วิธีการรักษาคือผ่าตัดใหม่โดยให้คนไข้พัก 2-3 เดือน ซึ่งแพทย์จะทำการรักษาตั้งแต่ในขั้นของซิลิโคนเกือบทะลุ คือเมื่อเริ่มมีตุ่มน้ำเกิดขึ้น หรือผนังเริ่มบางใสจนมองเห็นแท่งซิลิโคน
อาการ (ที่อาจพบ) หลังเสริมจมูกแบบวันต่อวัน
ในช่วง 1-3 วันแรก : อาจจะมีบวมที่แผล รู้สึกตึง และเขียวช้ำบริเวณจมูกหรือใต้ตา แนะนำให้ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง หรือทานสมุนไพรใบบัวบกก็จะช่วยให้หายบวมช้ำได้เร็วขึ้น
หลังเสริมจมูก 7 วัน : หลังจากครบหนึ่งอาทิตย์อาการบวมจะเริ่มยุบลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลและอาหารการกิน
หลังเสริมจมูก 14 วัน : โดยปกติเมื่อครบ 14 วัน อาการบวมจะยุบลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงรอยฟกช้ำต่าง ๆ ก็จะหายไป สิ่งสำคัญต้องเข้ามาพบคุณหมอเพื่อตัดไหม
หลังเสริมจมูกครบ 1 เดือน : อาการยุบบวมต่าง ๆ จะยุบลงมาก เห็นเป็นทรงจมูกชัดเจน แต่บางคนอาจจะมีช้ำมีเหลืองอยู่บ้าง แต่สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ
หลังเสริมครบ 3-6 เดือนไป จะเริ่มเห็นทรงจมูกชัดเจนขึ้น จมูกจะเริ่มรัดแกนสวยเข้าที่