Mounjaro (Tirzepatide) คืออะไร? ยาฉีดลดน้ำหนักใหม่

0
3049

ในยุคที่การลดน้ำหนักไม่ใช่เพียงเรื่องของรูปร่าง แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพแบบองค์รวม Mounjaro (มอนจาโร) ได้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าจับตามองที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีภาวะอ้วนหรือเป็นเบาหวานชนิดที่ 2

สารบัญ hide

Mounjaro คืออะไร?

Mounjaro (มอนจาโร) เป็นชื่อทางการค้าของ Tirzepatide (ไทร์เซพาไทด์) ยาในกลุ่มใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในวงการแพทย์ทั่วโลก โดยเฉพาะในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วน ยานี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ยาฉีดลดน้ำหนักแห่งอนาคต” ด้วยกลไกที่เหนือกว่ายาเดิมอย่าง Semaglutide (เช่น Wegovy หรือ Ozempic)

Tirzepatide ถูกพัฒนาโดยบริษัท Eli Lilly และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) สำหรับการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และในปี 2022 ได้มีการเผยแพร่ผลวิจัยชี้ชัดว่า ยานี้มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักอย่างชัดเจน แม้ในกลุ่มผู้ที่ไม่มีเบาหวาน

รายละเอียด Ozempic คืออะไร?


กลไกการทำงานของ Mounjaro (Tirzepatide)

Mounjaro ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยาในกลุ่ม GLP-1 receptor agonist แบบเดียวกับ Semaglutide เท่านั้น แต่ยังมีการออกฤทธิ์แบบ dual incretin agonist กล่าวคือ:

  • กระตุ้นตัวรับ GLP-1 (Glucagon-like Peptide-1): ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มเร็ว ลดความอยากอาหาร และชะลอการเคลื่อนตัวของอาหารในทางเดินอาหาร
  • กระตุ้นตัวรับ GIP (Glucose-dependent Insulinotropic Polypeptide): ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินตามระดับน้ำตาลในเลือด และมีส่วนช่วยควบคุมเมตาบอลิซึม

ด้วยการทำงานแบบสองระบบ ยานี้จึงสามารถให้ผลลัพธ์ในการลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่ทรงพลังยิ่งกว่ายาในกลุ่มเดียวกันที่มีมาก่อนหน้านี้

กลไกการทำงานของ Mounjaro (Tirzepatide)

อ่านรายละเอียด ปากกาลดน้ำหนักคืออะไร


ประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก

Mounjaro ได้รับการทดสอบในงานวิจัยระดับโลกหลายฉบับ โดยเฉพาะการศึกษาในกลุ่มคนที่เป็นโรคอ้วนหรือมีภาวะน้ำหนักเกินโดยไม่มีเบาหวาน (SURMOUNT-1) พบว่า

ขนาดยาน้ำหนักที่ลดได้ (โดยเฉลี่ย)
2.5–5 mgลดได้ประมาณ 16% ของน้ำหนักตัว
10 mgลดได้ประมาณ 21.4% ของน้ำหนักตัว
15 mgลดได้สูงสุดถึง 22.5% ของน้ำหนักตัว

ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับ การผ่าตัดลดน้ำหนัก (Bariatric Surgery) แต่ทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และมีผลข้างเคียงน้อยกว่า

ประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก

Mounjaro เหมาะกับใคร?

แม้ว่า Mounjaro (Tirzepatide) จะเป็นนวัตกรรมยาลดน้ำหนักที่ทรงพลังและเห็นผลชัดเจน แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน การใช้ยานี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และเหมาะกับผู้ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้

Mounjaro เหมาะกับใคร?

1. ผู้ที่มีภาวะอ้วนหรือมีน้ำหนักเกิน

Mounjaro เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ดังนี้

  • BMI ≥ 30 (อ้วน)
  • BMI ≥ 27 พร้อมโรคร่วม เช่น:
    • ความดันโลหิตสูง
    • เบาหวานชนิดที่ 2
    • ไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia)
    • ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Obstructive Sleep Apnea)

เป็นกลุ่มที่แพทย์แนะนำให้ใช้ยาควบคุมน้ำหนักเพื่อป้องกันโรคร้ายแรงในอนาคต เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือภาวะดื้ออินซูลิน

2. ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีเดิมไม่ได้ผล

หากคุณเคยพยายามลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือใช้วิธีธรรมชาติอื่น ๆ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ Mounjaro อาจเป็นตัวช่วยสำคัญ เพราะ

  • ยาออกฤทธิ์ต่อสมองส่วนควบคุมความหิวโดยตรง
  • เพิ่มการเผาผลาญพลังงาน
  • ชะลอการล้างกระเพาะ ทำให้อิ่มนาน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่เคยใช้ Saxenda®, Wegovy® แล้วผลลัพธ์ไม่ตอบโจทย์

3. ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได้

Mounjaro ได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯ ให้ใช้เป็นยารักษา เบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการ

  • ลดระดับ HbA1c (ค่าเฉลี่ยน้ำตาลในเลือด)
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
  • ส่งผลข้างเคียงน้อยกว่ายาเบาหวานรุ่นเก่า
  • ช่วยลดน้ำหนักได้พร้อมกันในผู้ที่เป็นเบาหวานและอ้วน

เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีภาวะเมตาบอลิซึมซับซ้อน หรือมีความเสี่ยงโรคหัวใจจากน้ำหนักตัวที่มาก

4. ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการผ่าตัดลดน้ำหนัก

หลายคนลังเลที่จะทำ Bariatric Surgery (ผ่าตัดกระเพาะ) เพราะกลัวผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน Mounjaro จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าและไม่ต้องผ่าตัด แต่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน จากการศึกษาของ SURMOUNT-1 พบว่า

ผู้ใช้ Mounjaro ขนาด 15 มก. สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 22.5% ของน้ำหนักตัวภายใน 72 สัปดาห์ ซึ่งเทียบเท่ากับผลหลังการผ่าตัดในบางกรณี


Mounjaro ไม่เหมาะกับใคร?

Mounjaro ไม่เหมาะกับใคร?
  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิด medullary thyroid carcinoma (MTC)
  • ผู้ที่มีเนื้องอกของต่อมไร้ท่อชนิด MEN 2 (Multiple Endocrine Neoplasia syndrome type 2)
  • ผู้ที่มีประวัติตับอ่อนอักเสบจากการใช้ยา

เริ่มต้นใช้ Mounjaro (Tirzepatide) ปากกาลดน้ำหนักยังไง?

การใช้ Mounjaro (Tirzepatide) ให้ได้ผลสูงสุดและปลอดภัย ควรเริ่มต้นอย่างมีขั้นตอน ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นที่ร่างกายต้องปรับตัวกับตัวยา เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงและเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก

1. ปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้

  • ตรวจวัด ดัชนีมวลกาย (BMI) และประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ
  • ซักประวัติทางการแพทย์ เช่น โรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ ประวัติมะเร็งในครอบครัว
  • ตรวจเลือดเบื้องต้น เช่น น้ำตาล ไขมัน ตับ ไต และฮอร์โมน เพื่อวางแผนการใช้ยาให้เหมาะสม

2. เริ่มต้นที่ขนาดยาเริ่มต้นต่ำสุด

Mounjaro มาในรูปแบบ ปากกาฉีดใต้ผิวหนัง ใช้ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเริ่มต้นจากขนาดต่ำสุดเพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัว

สัปดาห์ขนาดยา
สัปดาห์ที่ 1–42.5 mg (ขนาดเริ่มต้น)
สัปดาห์ที่ 5–85 mg
สัปดาห์ที่ 9–127.5 mg
สัปดาห์ที่ 13–1610 mg
สัปดาห์ที่ 17–2012.5 mg
สัปดาห์ที่ 21 เป็นต้นไป15 mg (ขนาดรักษา)

3. วิธีฉีด Mounjaro อย่างถูกต้อง

  • ตำแหน่งที่ฉีด: หน้าท้อง (ห่างจากสะดือ 2 นิ้ว), ต้นขาด้านหน้า หรือหลังต้นแขน
  • ไม่ต้องฉีดทุกวัน: ฉีดเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ในวันเดียวกันของแต่ละสัปดาห์
  • ควรสลับจุดฉีด ทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดก้อนแข็งหรือไตใต้ผิวหนัง

4. การเก็บรักษา

  • ก่อนใช้: แช่ในตู้เย็น (2–8°C)
  • หลังเปิดใช้: เก็บที่อุณหภูมิห้องไม่เกิน 30°C ได้ประมาณ 21–28 วัน
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดและห้ามแช่แข็ง

5. เฝ้าสังเกตอาการและปรับแผนตามแพทย์

  • อาการข้างเคียงในช่วงแรก เช่น คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ท้องอืด จะค่อย ๆ ลดลง
  • ควรแจ้งแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องรุนแรง หรืออ่อนแรงมากผิดปกติ
  • แพทย์อาจปรับขนาดยาช้าลง หรือคงขนาดเดิมนานขึ้นหากผลข้างเคียงรุนแรง

เคล็ดลับการเริ่มต้นให้ได้ผลดี

  • ดื่มน้ำมาก ๆ ระหว่างวัน
  • รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ลดของมัน ของทอด
  • หลีกเลี่ยงอาหารมื้อใหญ่มาก ๆ โดยเฉพาะในวันฉีดยา
  • ควบคู่กับการปรับพฤติกรรม เช่น เดินออกกำลังกายเบา ๆ และจดบันทึกน้ำหนัก

Mounjaro ต่างจาก Semaglutide อย่างไร?

คุณสมบัติMounjaro (Tirzepatide)Semaglutide (Wegovy/Ozempic)
กลไกGLP-1 + GIP agonistGLP-1 agonist เท่านั้น
ความถี่ในการใช้ฉีดสัปดาห์ละครั้งฉีดสัปดาห์ละครั้ง
ผลลัพธ์การลดน้ำหนักมากกว่า (สูงสุด ~22.5%)เฉลี่ย ~15–18%
การอนุมัติในไทยได้รับการรับรองแล้ว (เปิดตัวปลายปี 2568)วางจำหน่ายแล้ว

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ Mounjaro®

ในช่วงเริ่มต้นของการใช้ ยา Mounjaro® (Tirzepatide) ผู้ใช้บางรายอาจพบกับผลข้างเคียงเล็กน้อย ซึ่งมักเป็นอาการชั่วคราวที่เกิดจากการที่ร่างกายกำลังปรับตัวต่อฮอร์โมน GLP-1 และ GIP ที่เพิ่มขึ้น โดยอาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้

อาการที่พบได้บ่อย

  • คลื่นไส้
    เกิดจากการที่ยาชะลอการล้างกระเพาะอาหาร ทำให้อิ่มนาน อาจรู้สึกแน่นท้องหรือกินอาหารได้น้อยลง
  • ท้องอืด / แน่นท้อง
    ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลงชั่วคราว บางรายอาจรู้สึกไม่สบายท้องหลังมื้ออาหาร
  • เบื่ออาหาร
    เกิดจากกลไกยาที่ทำให้สมองรู้สึกอิ่มเร็วและนานกว่าปกติ
  • ท้องผูก
    เป็นผลพวงจากการที่ระบบย่อยทำงานช้าลง อาจมีอาการขับถ่ายไม่สะดวก
  • อ่อนเพลีย หรือเวียนศีรษะเล็กน้อย
    อาจเกิดในช่วงแรกของการใช้ เนื่องจากพลังงานลดลงจากการรับประทานอาหารที่น้อยลง

คำแนะนำในการลดอาการข้างเคียง

1. เริ่มใช้ยาด้วยขนาดต่ำ

  • Mounjaro จะเริ่มต้นที่ขนาด 2.5 mg ต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ดี ก่อนเพิ่มขนาดตามแพทย์แนะนำ
  • การเพิ่มขนาดเร็วเกินไปอาจกระตุ้นอาการไม่พึงประสงค์มากขึ้น

2. ปรับพฤติกรรมการกิน

  • ควรแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อย ๆ (วันละ 4–5 มื้อเล็ก) แทนการกินมื้อใหญ่
  • หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง, อาหารทอด หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจัด

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

  • การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยเรื่องอาการคลื่นไส้และท้องผูก
  • แนะนำให้จิบน้ำเป็นระยะระหว่างวัน แทนการดื่มรวดเดียว

4. พักผ่อนให้เพียงพอ

หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในช่วง 2–3 วันแรกหลังเริ่มใช้ยา
ควรเริ่มจากขนาดต่ำสุด และเพิ่มตามลำดับอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดผลข้างเคียงให้น้อยที่สุด

ผู้ที่มีอาการเวียนหัวหรืออ่อนเพลียควรนอนหลับให้ครบ 7–8 ชั่วโมง


Mounjaro ซื้อได้ที่ไหนบ้าง?

ในปัจจุบัน Mounjaro ได้รับการรับรองจาก อย. ไทยแล้ว และคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในคลินิกและโรงพยาบาลชั้นนำภายในช่วงปลายปี 2568 โดยจะอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์เช่นเดียวกับ Wegovy หรือ Saxenda

หากคุณสนใจ Mounjaro แนะนำให้ติดตามคลินิกที่มีประสบการณ์ด้านการลดน้ำหนัก เช่น Siam Clinic ในภูเก็ต ซึ่งจะเป็นหนึ่งในคลินิกกลุ่มแรกที่นำยานี้มาใช้


ราคา Mounjaro ในประเทศไทย

ราคา Mounjaro

ในต่างประเทศราคาของ Mounjaro เฉลี่ยอยู่ที่ ประมาณ 10,000–20,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับขนาดยา) โดยในไทยคาดว่าราคาจะใกล้เคียงกับ Wegovy หรืออาจสูงกว่าเล็กน้อยในช่วงเปิดตัว


คำแนะนำก่อนใช้ยา

  • ควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางก่อนเริ่มใช้
  • หลีกเลี่ยงการซื้อยาจากแหล่งที่ไม่ปลอดภัย เช่น ออนไลน์ที่ไม่มีใบอนุญาต
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และตรวจสุขภาพตามกำหนด

FAQ Mounjaro

Mounjaro ราคาเท่าไหร่ในไทย?

ราคาของ Mounjaro (Tirzepatide) ในประเทศไทยยังแตกต่างกันไปตามคลินิกและขนาดของยาที่ใช้ โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง หลักหมื่นบาทต่อเข็ม ขึ้นกับปริมาณโดสและการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้ควรปรึกษาคลินิกโดยตรงเพื่อทราบราคาและแผนการรักษาที่เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคน

หากคุณสนใจ Mounjaro แนะนำให้ติดตามคลินิกที่มีประสบการณ์ด้านการลดน้ำหนัก เช่น Siam Clinic ในภูเก็ต ซึ่งจะเป็นหนึ่งในคลินิกกลุ่มแรกที่นำยานี้มาใช้

Mounjaro ต่างจาก Wegovy ยังไง?

  • Mounjaro (Tirzepatide) → ออกฤทธิ์ที่ 2 ตัวรับ คือ GLP-1 และ GIP receptors ทำให้ควบคุมความอยากอาหารและระดับน้ำตาลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • Wegovy (Semaglutide) → ทำงานกับ GLP-1 receptor เพียงอย่างเดียว

    งานวิจัยหลายฉบับพบว่า Mounjaro อาจช่วยลดน้ำหนักได้ มากกว่า Wegovy ในผู้ป่วยบางกลุ่ม แต่การเลือกใช้ยาต้องขึ้นกับการประเมินของแพทย์

ผลข้างเคียงของ Mounjaro คืออะไร?

ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย เบื่ออาหาร

ในบางรายอาจพบผลข้างเคียงรุนแรง เช่น ตับอ่อนอักเสบ หรือปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ควรใช้ยาภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น

อ่านบทความเกี่ยวกับ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Mounjaro (FAQ)


สรุป

Mounjaro (Tirzepatide) คือการปฏิวัติใหม่ในโลกของการลดน้ำหนักและควบคุมเบาหวาน ที่ผสานการทำงานของสองฮอร์โมนในร่างกาย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ด้วยประสิทธิภาพที่ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยระดับโลก Mounjaro จึงเป็นทางเลือกที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ผลดีจากยาเดิมในกลุ่ม GLP-1

แหล่งข้อมูลอ้างอิง:

FDA Approves New Medication for Chronic Weight Management

การศึกษา Tirzepatide Once Weekly for the Treatment of Obesity – PubMed

บทความ New Drug: Tirzepatide (Mounjaro™) – PubMed


ปรึกษาสยามคลินิก เรื่องยาฉีดควบคุมความหิว

หากต้องการใช้ยาฉีดควบคุมความหิว ควรเข้ามารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อจะได้สอบถามประวัติและตรวจร่างกายก่อนเริ่มฉีด ทั้งนี้ ระหว่างการรักษา จะมีการติดตามอาการและประเมินผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คนไข้ลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี

นอกจากนี้สยามคลินิก ยังให้บริการการกระชับสัดส่วนด้วยวิธีอื่น ดังนี้

สามารถดูรายละเอียด แต่ละตัวช่วยได้ทางเพจคลินิก หรือ เพิ่มเติมได้ทางเว็ปไซต์ หรือนัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์ได้ค่ะ


ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต

บทความก่อนหน้านี้ข้อมูลครบ! Wegovy คืออะไร? ปากกาลดน้ำหนักที่หมอแนะนำ เห็นผลจริง ปลอดภัยไหม?
บทความถัดไปOzempic คืออะไร? ยาฉีด Semaglutide ควบคุมน้ำตาล ลดน้ำหนัก เห็นผลจริงหรือไม่?