ยาฉีดควบคุมความหิว ปัจจุบันมีวิวัฒนาการทางการแพทย์หลากหลาย ที่ช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรค ไม่ว่าจะเป็นการกินยา การฉีดยา การใส่บอลลูนลดน้ำหนัก หรือการผ่าตัดรัดกระเพาะ ซึ่งแต่ละวิธีควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
สำหรับวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน ได้แก่ การใส่บอลลูนลดน้ำหนัก และการใช้ยาฉีดควบคุมความหิว ซึ่งผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา และ US FDA
สยามคลินิกภูเก็ตให้บริการให้คำปรึกษาการใช้ยาฉีดควบคุมความหิว
ยาฉีดควบคุมความหิว เป็นอย่างไร
- ยาฉีดควบคุมความหิวเป็นยาฉีดในชั้นไขมันในรูปแบบปากกา ที่ใช้ในเข้าบริเวณชั้นใต้ผิวหนัง โดยจะมีการปรับขนาดตามที่แพทย์กำหนดไว้ โดยเป้าหมายคือการลดน้ำหนัก 5-10% ของน้ำหนักเดิม ภายในระยะเวลา 12 สัปดาห์หรือ 3 เดือน
ทำไมยาฉีดควบคุมความหิว ถึงทำให้น้ำหนักลดได้
- Liraglutide มีการออกฤทธิ์ที่คล้ายกับฮอร์โมนที่มีอยู่ในร่างกายชื่อว่า glucagon-like peptide-1 (GLP-1) ซึ่งฮอร์โมน GLP-1 หลั่งออกมาจากสำไส้หลังการรับประทานอาหาร โดยจะออกฤทธิ์จับกับตัวรับในสมองที่ทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร ทำให้เกิดความรู้สึกอิ่ม จึงทำให้หิวน้อยลง จะช่วยให้กินน้อยลง และทำให้น้ำหนักลดลงได้
- Liraglutide หรือ GLP-1 เป็นกลุ่มฮอร์โมนในทางเดินอาหารที่มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด เพราะฉะนั้นผลที่ได้จากการใช้ยานี้จะ ช่วยลดการผลิตน้ำตาลที่ตับ เพิ่มความไวของอินซูลินที่ตับอ่อนและที่กล้ามเนื้อ รวมถึงลดการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหาร จึงทำให้อาหารอยู่ท้องนานขึ้น
- Liraglutide ไม่ใช่ยากระตุ้นใดๆ
ผู้ที่อยู่ในเกณฑ์ของการใช้ยาฉีดควบคุมความหิว
- ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เฉพาะทางโภชนบำบัด ไม่ควรหาซื้อยามาฉีดเองเพราะอาจไม่ได้ประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก
- มีดัชนีมวลกาย (Body mass index, BMI) เกิน 30 กิโลกรัม/ตารางเมตร
- มีดัชนีมวลกาย (Body mass index, BMI) เกิน 27 กิโลกรัม/ตารางเมตร ร่วมกับโรคร่วมเช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวานชนิดที่ 2 ไขมันในเลือดสูง
เกณฑ์วัด
- น้ำหนัก ต่ำกว่าเกณฑ์ = 18.5
- น้ำหนัก ปกติ = 18.6-24.9
- น้ำหนัก อ้วน หรือ เริ่มมีภาวะ น้ำหนักเกิน 25-29.9
- น้ำหนัก เกิน 30 หรือมากกว่า = มีภาวะอ้วนมาก
วิธีการใช้ยาฉีดควบคุมความหิว
- ยาฉีดควบคุมความหิว เป็นยาฉีดวันละครั้ง เวลาใดก็ได้โดยไม่ขึ้นกับมื้ออาหาร โดยฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ควรฉีดยา เวลาเดิมทุกวัน
- บริเวณที่เหมาะสมในการฉีดยาที่ดีที่สุดคือหน้าท้องโดยฉีดห่างจากรอบสะดืออย่างน้อย 2 นิ้วมือ โดยบริเวณอื่นที่ฉีดได้คือ ต้นขา หรือ ท่อนแขนด้านบน
- ควรเปลี่ยนตำแหน่งที่ฉีดโดยเว้นระยะประมาณ 2 นิ้วมือในบริเวณเดิมและกลับมาฉีดตำแหน่งเดิมได้เมื่อพ้น 4-8 สัปดาห์ไปแล้ว
- เป็นยาที่สามารถใช้ฉีดยาได้ด้วยตนเองที่บ้านได้
- แพทย์จะปรับ เพิ่ม/ลด ขนาดยาให้ตามผลลัพธ์และผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น หรือมีการพิจารณาหยุดการใช้ยาถ้าหากผลข้างเคียงเกิดขึ้นมากกว่าประโยชน์ที่ได้รับ
ตัวอย่างตารางการใช้ยาฉีดควบคุมความหิว
ยาฉีดควบคุมความหิวออกแบบตารางการใช้ยาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักมากที่สุดในขณะที่เกิดผลข้างเคียงต่อระบบทางเดินอาหารน้อยที่สุด ตารางปกติจะใช้ระยะเวลาประมาณ 4 เดือน โดยจะเริ่มต้นที่ขนาดยา 0.6 มิลลิกรัม หลังจากนั้นจะปรับยาทุกอาทิตย์ตามคำแนะนำของแพทย์ โดยจะปรับไม่สูงเกินไปกว่า 3.0 มิลลิกรัม
ผลข้างเคียงของยาฉีดควบคุมความหิว
- คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูก ปวดศีรษะ น้ำตาลต่ำ (ในกรณีใช้ร่วมกับยาเบาหวานบางชนิด) พบได้ประมาณ 10% ของผู้ใช้ทั้งหมด
- ไม่อยากอาหาร เวียนหัว อ่อนเพลีย ปวดท้อง ท้องอืด กรดไหลย้อน เวียนหัว พบได้ประมาณ 1-10% ของผู้ใช้ทั้งหมด
ความปลอดภัยของการใช้ยาฉีดควบคุมความหิว
- ยาฉีดควบคุมความหิวได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งในประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ว่ามีความปลอดภัย สามารถใช้ในการควบคุมน้ำหนักได้ ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเคร่งครัด
- ไม่อนุญาตให้มีการใช้งานนอกเหนือจากคำสั่งแพทย์ในทุกกรณี
ข้อห้ามในการใช้ยาฉีดควบคุมความหิว
- ผู้ที่อายุน้อยกว่า 18 ปี และมากกว่า 75 ปี
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร หรือวางแผนตั้งครรภ์
- มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งไทรอยด์ (Medullary Thyroid Cancer) หรือ Multiple Endocrine Neoplasia syndrome Type 2 (MEN 2)
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวทุกชนิด ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของไต ตับ ลำไส้และกระเพาะอาหาร ต้องได้รับการปรึกษาโดยแพทย์ในทุกกรณี
- ผู้ที่มีการใช้ยาเบาหวาน หรือยา Glipizide และรวมไปถึงยาที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของหลอดเลือด
การเก็บรักษายาฉีดควบคุมความหิว
- หากยังไม่เปิดใช้ให้เก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ (2-8 องศาเซลเซียส) ห้ามเก็บบริเวณช่องแช่แข็ง ยาที่ยังไม่เปิดใช้มีอายุเท่ากับวันหมดอายุที่ระบุบนปากกา
- หลังจากเปิดใช้ครั้งแรกให้เก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียสหรือเก็บในตู้เย็นอุณหภูมิ (2 องศาเซลเซียส ถึง 8 องศาเซลเซียส) ห้ามแช่แข็งและสวมปลอกปากกาไว้เพื่อป้องกันแสง ยาที่เปิดใช้แล้วมีอายุหนึ่งเดือน
งานวิจัยยาฉีดควบคุมความหิว
Liraglutide ได้ถูกทดลองใช้ในงานวิจัยกับคนไข้จำนวน 3,713 คน ซึ่งพบว่าจำนวน 85% ของกลุ่มที่อยู่ในงานวิจัยสามารถลดน้ำหนักได้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
3 ใน 5 คน สามารถลดน้ำหนักได้โดยเฉลี่ย 5% หรือประมาณ 5.4 กิโลกรัม (เมื่อเทียบกับตอนก่อนเข้าร่วมงานวิจัย)
1 ใน 3 คน สามารถลดน้ำหนักได้เท่ากับหรือมากกว่า 5% หรือประมาณ 10.5 กิโลกรัม (เมื่อเทียบกับตอนก่อนเข้าร่วมงานวิจัย)
ผู้เข้าร่วมทดลองจำนวนประมาณ 6% ของทั้งหมด สามารถลดน้ำหนักได้มากถึง 20% (เมื่อเทียบกับตอนก่อนเข้าร่วมงานวิจัย)
ที่มา https://www.saxenda.com/about-saxenda/benefits-of-saxenda.html
ยาฉีดควบคุมความหิวทำให้เกิดโยโย่เอฟเฟคหรือไม่ (Yoyo effect) หลังจากใช้ไปนานๆ
ในงานวิจัยที่มีการทดลองการใช้ Saxenda® (Liraglutide) เป็นเวลา 3 ปี พบว่า
- ผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวน 56% สามารถลดน้ำหนักได้ตามเป้าภายใน 1 ปีแรก
- พบว่าผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวนดังกล่าวยังสามารถคงน้ำหนักตัวเดิมไว้ได้ในระยะ 3 ปี เมื่อยังคงใช้ ยาฉีดควบคุมความหิวเป็นตัวเสริมในการควบคุมปริมาณอาหารพร้อมกับเพิ่มการออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน โดยเป็นการเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ยา ต่อ
- โดยสรุปคือ หลังจากใช้ยาครบตามจำนวนที่แพทย์สั่ง และได้น้ำหนักตามเป้าแล้ว การรักษาพฤติกรรมไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การมีวินัยในตนเอง จะช่วยป้องกันการเกิดโยโย่เอฟเฟคได้
ปรึกษาสยามคลินิก เรื่องยาฉีดควบคุมความหิว
หากต้องการใช้ยาฉีดควบคุมความหิว ควรเข้ามารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อจะได้สอบถามประวัติและตรวจร่างกายก่อนเริ่มฉีด ทั้งนี้ ระหว่างการรักษา จะมีการติดตามอาการและประเมินผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คนไข้ลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี
นอกจากนี้สยามคลินิก ยังให้บริการการกระชับสัดส่วนด้วยวิธีอื่น ดังนี้
- INDIBA BODY BURN ช่วยการเผาผลาญ ลดไขมันสะสม กระชับสัดส่วน
- Cristal CoolScultping : เครื่องสลายไขมัน ด้วยความเย็น
- การดูดไขมัน (Liposuction) เหมาะสำหรับคนที่มี ภาวะอ้วนแล้ว (BMI >25)
รูปภาพ รีวิวเคสยาฉีดควบคุมความหิว ภายใต้การดูเเลของเเพทย์
ทางสยาม คลินิก ภูเก็ต ได้รวบรวมผลงานคนไข้จริงที่เข้ามารับบริการที่คลินิกเพื่อเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้ที่สนใจจะมารับบริการได้ตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น เพราะเราเชื่อว่าหลังทำหัตถการต้องเห็นผลชัดเจน ท่านเลื่อนดูรูปภาพรีวิวเคสทรีตเม้นต์ใบหน้าได้ด้านล่างได้เลยค่ะ
ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต
- ติดต่อเราได้ที่ สยามคลินิก ชั้น 1 ห้าง บิ๊กซี ภูเก็ต
- แผนที่ : https://g.page/SiamClinicPhuket
- โทรศัพท์ : 088-488-6718 และ 093-692-5999
- Email : [email protected]
- Facebook inbox : https://m.me/siamclinicthailand
- Instagram : https://www.instagram.com/siamclinic
- Line@ : @siamclinic หรือแอด https://lin.ee/uny1D7n