ฝ้า (Melasma) ชนิด สาเหตุ การป้องกัน และ การรักษา
“ฝ้า” หรือ “Melasma” ทำไหมถึงเป็นฝ้า ปัญหา “ฝ้า” เป็นปัญหายอดฮิตบนใบหน้าที่กวนใจสาวไทยหลายคน ซึ่งเกิดจากเม็ดสีเมลานิลบนใบหน้าทำงานผิดปกติ แต่เอ๊ะ! เราจะรู้ได้อย่างไรนะว่าเราเป็น “กระ” หรือเป็น “ฝ้า” กันแน่ เพราะ 2 ปัญหานี้ถ้ามองเผินๆ ก็ดูคล้ายกันจริงเชียว ดังนั้นเราขออาสาไขข้อข้องใจในจุดนี้ให้กับเพื่อน
ฝ้ามีลักษณะอย่างไร?
ฝ้า Melasma เกิดจากเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนังมากเกินปกติ มีลักษณะเป็นรอยปื้นใหญ่ๆ ผิวเรียบ สีน้ำตาล ซึ่งลักษณะของสีน้ำตาลก็มีหลายแบบ แบ่งแยกออกไปตามประเภทของฝ้า ได้แก่
- ฝ้าตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) ฝ้าชนิดนี้จะเป็นสีน้ำตาล ขอบชัด เกิดขึ้นได้ง่าย และสามารถรักษาให้หายได้โดยใช้เวลาไม่นาน
- ฝ้าลึก จะอยู่ในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า ความลึกของมันจะทำให้เกิดการแสดงสีออกมาเป็นสีน้ำตาลอมฟ้าหรือสีน้ำตาลอมม่วง เป็นฝ้าที่รักษาได้ยาก การทายามักให้ผลเพียงแค่ทำให้ดูจางลงเท่านั้น
- ฝ้าแดด หรือผสม มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลคล้ำ ดำ แดง หากทิ้งไว้นานฝ้าแดดจะมีสีเข้มขึ้นไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นสีดำได้
- ฝ้าเลือด มีลักษณะคล้ายเส้นเลือดฝอยแตกบนใบหน้า ฝ้าชนิดนี้เกิดขึ้นจากการใช้ครีมหรือเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น มีสารเสตียรอยด์ สารปรอท เป็นต้น จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
กระ มีลักษณะอย่างไร
“กระ” มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อนหรือสีน้ำตาลเข้ม สามารถกระจายทั่วใบหน้าและลำคอได้ แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่
- กระลึก มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเทา ผิวเรียบ กระจุกอยู่เป็นกลุ่มบนใบหน้า มักขึ้นบริเวณบริเวณโหนกแก้ม จำเป็นต้องทำพบแพทย์ควบคู่ไปกับการทาครีมรักษาฝ้ากระ
- กระตื้น มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็กๆ ผิวเรียบ หากทิ้งไว้นานโดยไม่ใช้ครีมรักษาฝ้ากระสีก็จะเข้มขึ้น สามารถรักษาด้วยการทาครีมรักษาฝ้ากระได้
- กระแดด มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาล ผิวเรียบ กระจายอยู่ตามใบหน้าและร่างกายได้ สามารถรักษาด้วยการทาครีมรักษาฝ้ากระได้พร้อมกับการทำเลเซอร์
- กระเนื้อ มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือดำ ผิวนูนเหมือนเป็นตุ่ม สามารถขึ้นได้ทั้งใบหน้า ลำคอ เกิดจากพันธุกรรม จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
จากที่กล่าวมาทั้งหมดเพื่อนๆ คงทราบกันแล้วว่า “ฝ้า” หรือ “กระ” นั้นแตกต่างกันอย่างไร บางชนิดแค่ทาครีมรักษาฝ้ากระก็หายได้ จะช้าหรือจะเร็วก็ขึ้นอยู่กับสภาพของปัญหาบนใบหน้าของแต่ละบุคคล บางชนิดก็จำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อทำการรักษานั่นเอง
ฝ้า (Melasma) แบ่งจากลักษณะการเกิด ได้อีก 2 ชนิด คือ
- ฝ้าเลือด เป็นฝ้าที่มีลักษณะรอยแดงคล้ายเส้นเลือด ขึ้นเป็นรอยปื้นๆ สีชมพู ไปจนถึงสีดำ เกิดจากความผิดปกติของเลือดลม ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง และอาจเกิดจากผลข้างเคียงของการใช้สาร จำพวกสารไฮโครควิโนน สารปรอท ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบริเวณผิวที่มีความบอบบาง ไวต่อแสง
- ฝ้าแดด เป็นฝ้าที่มีลักษณะเป็นรอยปื้น สีน้ำตาลคล้ำ ดำ แดง หรือเทาอมม่วง เกิดจากรังสียูวีเอและยูวีบีจากแสงแดด หลอดไฟ แสงสีฟ้าจากคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน เป็นฝ้าที่รักษายาก และจะเข้มขึ้นเรื่อยๆหากไม่รักษา เพราะปกติผิวหน้าจะต้องสัมผัสกับแสงอยู่ตลอดอยู่แล้ว
ฝ้า สาเหตุของการเกิดฝ้า มีอะไรบ้าง
- แสงแดด ต้องบอกเลยว่า แสงแดด เป็นสาเหตุหลักๆ ของการเกิดฝ้าเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะแดดบ้านเราที่แรงแบบไม่เกรงกลัวสิ่งใด รังสี UV จากแสงแดด โดยเฉพาะช่วง 10.00-14.00 น. ก่อให้เกิดฝ้าได้ง่ายมากๆ แสงแดดจะเป็นตัวกระตุ้นให้การสร้างเมลานีนเกิดความผิดปกติ
- ฮอร์โมนในร่างกาย ฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ ก็เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้าได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีในร่างกายระดับสูงเมื่อทานยาคุมกำเนิด หรือฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนจะสูง ขณะที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งระดับฮอร์โมนที่ผิดปกติจะไปกระตุ้นการสร้างเมลานิน ทำให้เกิดฝ้า แต่ถ้าฮอร์โมนในร่างกายกลับมาสู่ภาวะปกติ ฝ้าก็จะจางลงและหายได้
- กรรมพันธุ์ กรรมพันธุ์เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า บุคคลที่เป็นฝ้าจะมีพันธุกรรมที่เอื้อต่อการเป็นฝ้าแฝงอยู่ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่สามารถหายีนที่ควบคุมการเกิดฝ้าได้
วิธีรักษาฝ้า (Melasma Treatment)
รักษาด้วยการทายา
จะได้ผลดีกับผู้ที่เป็นฝ้าตื้น แต่ต้องใช้เวลาตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผล ยารักษาฝ้ามีหลายชนิด ได้แก่ กลุ่มกรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Topical Retinoids/Retinoic Acid) กรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) กรดโคจิก (Kojic Acid) คอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid) ซึ่งความเข้มข้นของสารในครีมทาฝ้าจะมีปริมาณแตกต่างกันออกไป แต่ ไม่ควรไปซื้อยามาใช้เองนะคะ เพราะอาจทำให้ผิวหน้าเกิดแสบ แดง หรือลอกเป็นขุย
รักษาด้วย Laser
คือ เป็นเครื่องมือทางการแพทย์เป็นลำแสงที่มีความเข้มข้นสูงมีความยาวของคลื่น ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวชั้นบนๆ รักษาฝ้า กระ และรอยแดงที่เกิดจากการถูกแสงแดดทำลาย รวมถึงอายุที่มากขึ้น ทำให้เซลล์ผิวหนังเริ่มเสื่อมสภาพ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ช่วงคลื่นของพลังงานที่ใช้จะอยู่ระหว่าง 500 to 1200 nm. โดยพลังงานจะไปจับกับเซลล์เม็ดสีและทำลายโครงสร้างของเม็ดสี
รักษาด้วย Placenta Growth factor
คือ สารสกัดจากกรกของมนุษย์ ซึ่งประกอบไปด้วย เอนไซม์เปปไทด์ต่างๆมากกว่าพันชนิด ที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย กระตุ้นให้เซลล์มีการเพิ่จำนวน เร่งการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ซ่อมแซมเซลล์ มีฮอร์โมนธรรมชาติที่ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ทำให้เซลล์ได้รับสารอาหารมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลามินทำให้ผิวพรรณสดใส ขาวขึ้น ริ้วรอยลดลง ใช้ในการเวชศาสตร์การแพทย์ชะลอะวัย
ประโยชน์ ของ GROWTH FACTOR
- เป็นแหล่งอาหารของเซลล์ต้นกำเนิน
- ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยคลลาเจนและการสร้างเซลล์ผิวใหม่
- ช่วยบำรุงเซลล์ผิว ทำให้ใบหน้าเต่งตึง ดูสวย และลดเลือนริ้วรอย
- ช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งและกระจ่างใส
- ช่วยรักษาบาดแผลให้หายเร็วงอกใหม่
- ควบคุมสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน (Immunoregulatory)
- ป้องกันความเสื่อมของระบบประสาท (์Neutroprotective)
- ต่อต้านการแพ้ (Anti-allergic)
- ฟื้นฟูสภาพร่างกาย (Regenerative)
- ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
บางคนเป็นฝ้าเพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ วิตามินเสริมเป็นอีกตัวช่วยที่น่าสนใจ เช่น วิตามินเอ, วิตามินบี, วิตามินซี กรดโฟลิก และวิตามินบี 12 ที่บรรเทาปัญหาการเกิดฝ้าได้ดี
การป้องกันการเกิด ฝ้า (Melasma)
- หลีกเลี่ยง แสงแดด เมื่อไม่จำเป็น หรือควรใช้ร่มที่ป้องกันรังสียูวี สวมหมวก ใช้ผ้าคลุม โดยเฉพาะแดดช่วง 10.00-16.00 น.
- หลีกเลี่ยงยาที่เป็นต้นเหตุให้เกิดฝ้า หรือยาเพิ่มฮอร์โมนอื่นๆ เช่น ยาคุมกำเนิด อาจจะต้องเปลี่ยนการคุมกำเนิดโดยต้องปรึกษาแพทย์ก่อน
- ใช้ ครีมกันแดด” ที่มี SPF30+ ขึ้นไป เพื่อป้องกันยูวีเอ และมีค่าป้องกัน PA2+ ขึ้นไป เพื่อป้องกันยูวีเอ โดยควรทาครีมกันแดดก่อนที่จะออกแดด 30 นาที
- ใช้ครีมทาที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ หรือครีมไวท์เทนนิ่งอื่นๆ เพื่อป้องกันผิวหน้ามีสีเข้มขึ้น
- เรื่องง่ายๆ ที่ไม่คิดว่าจะช่วยรักษาฝ้าได้ แต่มันคือเรื่องจริง! ด้วยการ “ดูแลตัวเอง” พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน หลีกเลี่ยงความเครียด ทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
รีวิวการรักษาฝ้าที่สยามคลินิก
อีกข้อที่สำคัญคือการดู รีวิวเมโสหน้าใสของคลินิกนั้นๆ จากผู้ใช้บริการจริง ในช่องทางที่เป็นกลาง น่าเชื่อถือค่ะ เช่น Facebook, Pantip ในแหล่งที่คลินิกไม่สามารถเข้าไปลบได้ รีวิวรักษาฝ้าที่Siam Clinic
ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต
- ติดต่อเราได้ที่ สยามคลินิก ชั้น 1 ห้าง บิ๊กซี ภูเก็ต
- แผนที่ : https://g.page/SiamClinicPhuket
- โทรศัพท์ : 088-488-6718 และ 093-692-5999
- Email : [email protected]
- Facebook inbox : https://m.me/siamclinicthailand
- Instagram : https://www.instagram.com/siamclinic
- Line@ : @siamclinic หรือแอด https://lin.ee/uny1D7n