รู้จัก Mounjaro (Tirzepatide) ปากกาลดน้ำหนักกลุ่มใหม่ ที่ควบคุมได้ทั้งน้ำตาลและความหิว

0
423

ในยุคที่การลดน้ำหนักไม่ใช่เพียงเรื่องของรูปร่าง แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพแบบองค์รวม Mounjaro (มอนจาโร) ได้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าจับตามองที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีภาวะอ้วนหรือเป็นเบาหวานชนิดที่ 2

สารบัญ hide

Mounjaro คืออะไร?

Mounjaro (มอนจาโร) เป็นชื่อทางการค้าของ Tirzepatide (ไทร์เซพาไทด์) ยาในกลุ่มใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในวงการแพทย์ทั่วโลก โดยเฉพาะในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วน ยานี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ยาฉีดลดน้ำหนักแห่งอนาคต” ด้วยกลไกที่เหนือกว่ายาเดิมอย่าง Semaglutide (เช่น Wegovy หรือ Ozempic)

Tirzepatide ถูกพัฒนาโดยบริษัท Eli Lilly และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) สำหรับการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และในปี 2022 ได้มีการเผยแพร่ผลวิจัยชี้ชัดว่า ยานี้มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักอย่างชัดเจน แม้ในกลุ่มผู้ที่ไม่มีเบาหวาน


กลไกการทำงานของ Mounjaro (Tirzepatide)

Mounjaro ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยาในกลุ่ม GLP-1 receptor agonist แบบเดียวกับ Semaglutide เท่านั้น แต่ยังมีการออกฤทธิ์แบบ dual incretin agonist กล่าวคือ:

  • กระตุ้นตัวรับ GLP-1 (Glucagon-like Peptide-1): ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มเร็ว ลดความอยากอาหาร และชะลอการเคลื่อนตัวของอาหารในทางเดินอาหาร
  • กระตุ้นตัวรับ GIP (Glucose-dependent Insulinotropic Polypeptide): ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินตามระดับน้ำตาลในเลือด และมีส่วนช่วยควบคุมเมตาบอลิซึม

ด้วยการทำงานแบบสองระบบ ยานี้จึงสามารถให้ผลลัพธ์ในการลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่ทรงพลังยิ่งกว่ายาในกลุ่มเดียวกันที่มีมาก่อนหน้านี้

กลไกการทำงานของ Mounjaro (Tirzepatide)

ประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก

Mounjaro ได้รับการทดสอบในงานวิจัยระดับโลกหลายฉบับ โดยเฉพาะการศึกษาในกลุ่มคนที่เป็นโรคอ้วนหรือมีภาวะน้ำหนักเกินโดยไม่มีเบาหวาน (SURMOUNT-1) พบว่า

ขนาดยาน้ำหนักที่ลดได้ (โดยเฉลี่ย)
2.5–5 mgลดได้ประมาณ 16% ของน้ำหนักตัว
10 mgลดได้ประมาณ 21.4% ของน้ำหนักตัว
15 mgลดได้สูงสุดถึง 22.5% ของน้ำหนักตัว

ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับ การผ่าตัดลดน้ำหนัก (Bariatric Surgery) แต่ทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และมีผลข้างเคียงน้อยกว่า

ประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก

Mounjaro เหมาะกับใคร?

แม้ว่า Mounjaro (Tirzepatide) จะเป็นนวัตกรรมยาลดน้ำหนักที่ทรงพลังและเห็นผลชัดเจน แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน การใช้ยานี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และเหมาะกับผู้ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้

Mounjaro เหมาะกับใคร?

1. ผู้ที่มีภาวะอ้วนหรือมีน้ำหนักเกิน

Mounjaro เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ดังนี้

  • BMI ≥ 30 (อ้วน)
  • BMI ≥ 27 พร้อมโรคร่วม เช่น:
    • ความดันโลหิตสูง
    • เบาหวานชนิดที่ 2
    • ไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia)
    • ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Obstructive Sleep Apnea)

เป็นกลุ่มที่แพทย์แนะนำให้ใช้ยาควบคุมน้ำหนักเพื่อป้องกันโรคร้ายแรงในอนาคต เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือภาวะดื้ออินซูลิน

2. ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีเดิมไม่ได้ผล

หากคุณเคยพยายามลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือใช้วิธีธรรมชาติอื่น ๆ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ Mounjaro อาจเป็นตัวช่วยสำคัญ เพราะ

  • ยาออกฤทธิ์ต่อสมองส่วนควบคุมความหิวโดยตรง
  • เพิ่มการเผาผลาญพลังงาน
  • ชะลอการล้างกระเพาะ ทำให้อิ่มนาน
  • เหมาะสำหรับผู้ที่เคยใช้ Saxenda®, Wegovy® แล้วผลลัพธ์ไม่ตอบโจทย์

3. ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได้

Mounjaro ได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯ ให้ใช้เป็นยารักษา เบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการ

  • ลดระดับ HbA1c (ค่าเฉลี่ยน้ำตาลในเลือด)
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
  • ส่งผลข้างเคียงน้อยกว่ายาเบาหวานรุ่นเก่า
  • ช่วยลดน้ำหนักได้พร้อมกันในผู้ที่เป็นเบาหวานและอ้วน

เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีภาวะเมตาบอลิซึมซับซ้อน หรือมีความเสี่ยงโรคหัวใจจากน้ำหนักตัวที่มาก

4. ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการผ่าตัดลดน้ำหนัก

หลายคนลังเลที่จะทำ Bariatric Surgery (ผ่าตัดกระเพาะ) เพราะกลัวผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน Mounjaro จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าและไม่ต้องผ่าตัด แต่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน จากการศึกษาของ SURMOUNT-1 พบว่า

ผู้ใช้ Mounjaro ขนาด 15 มก. สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 22.5% ของน้ำหนักตัวภายใน 72 สัปดาห์ ซึ่งเทียบเท่ากับผลหลังการผ่าตัดในบางกรณี


Mounjaro ไม่เหมาะกับใคร?

Mounjaro ไม่เหมาะกับใคร?
  • หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีประวัติมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิด medullary thyroid carcinoma (MTC)
  • ผู้ที่มีเนื้องอกของต่อมไร้ท่อชนิด MEN 2 (Multiple Endocrine Neoplasia syndrome type 2)
  • ผู้ที่มีประวัติตับอ่อนอักเสบจากการใช้ยา

เริ่มต้นใช้ Mounjaro (Tirzepatide) ปากกาลดน้ำหนักยังไง?

การใช้ Mounjaro (Tirzepatide) ให้ได้ผลสูงสุดและปลอดภัย ควรเริ่มต้นอย่างมีขั้นตอน ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นที่ร่างกายต้องปรับตัวกับตัวยา เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงและเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก

1. ปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้

  • ตรวจวัด ดัชนีมวลกาย (BMI) และประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ
  • ซักประวัติทางการแพทย์ เช่น โรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ ประวัติมะเร็งในครอบครัว
  • ตรวจเลือดเบื้องต้น เช่น น้ำตาล ไขมัน ตับ ไต และฮอร์โมน เพื่อวางแผนการใช้ยาให้เหมาะสม

2. เริ่มต้นที่ขนาดยาเริ่มต้นต่ำสุด

Mounjaro มาในรูปแบบ ปากกาฉีดใต้ผิวหนัง ใช้ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเริ่มต้นจากขนาดต่ำสุดเพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัว

สัปดาห์ขนาดยา
สัปดาห์ที่ 1–42.5 mg (ขนาดเริ่มต้น)
สัปดาห์ที่ 5–85 mg
สัปดาห์ที่ 9–127.5 mg
สัปดาห์ที่ 13–1610 mg
สัปดาห์ที่ 17–2012.5 mg
สัปดาห์ที่ 21 เป็นต้นไป15 mg (ขนาดรักษา)

3. วิธีฉีด Mounjaro อย่างถูกต้อง

  • ตำแหน่งที่ฉีด: หน้าท้อง (ห่างจากสะดือ 2 นิ้ว), ต้นขาด้านหน้า หรือหลังต้นแขน
  • ไม่ต้องฉีดทุกวัน: ฉีดเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ในวันเดียวกันของแต่ละสัปดาห์
  • ควรสลับจุดฉีด ทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดก้อนแข็งหรือไตใต้ผิวหนัง

4. การเก็บรักษา

  • ก่อนใช้: แช่ในตู้เย็น (2–8°C)
  • หลังเปิดใช้: เก็บที่อุณหภูมิห้องไม่เกิน 30°C ได้ประมาณ 21–28 วัน
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดและห้ามแช่แข็ง

5. เฝ้าสังเกตอาการและปรับแผนตามแพทย์

  • อาการข้างเคียงในช่วงแรก เช่น คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ท้องอืด จะค่อย ๆ ลดลง
  • ควรแจ้งแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องรุนแรง หรืออ่อนแรงมากผิดปกติ
  • แพทย์อาจปรับขนาดยาช้าลง หรือคงขนาดเดิมนานขึ้นหากผลข้างเคียงรุนแรง

เคล็ดลับการเริ่มต้นให้ได้ผลดี

  • ดื่มน้ำมาก ๆ ระหว่างวัน
  • รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ลดของมัน ของทอด
  • หลีกเลี่ยงอาหารมื้อใหญ่มาก ๆ โดยเฉพาะในวันฉีดยา
  • ควบคู่กับการปรับพฤติกรรม เช่น เดินออกกำลังกายเบา ๆ และจดบันทึกน้ำหนัก

Mounjaro ต่างจาก Semaglutide อย่างไร?

คุณสมบัติMounjaro (Tirzepatide)Semaglutide (Wegovy/Ozempic)
กลไกGLP-1 + GIP agonistGLP-1 agonist เท่านั้น
ความถี่ในการใช้ฉีดสัปดาห์ละครั้งฉีดสัปดาห์ละครั้ง
ผลลัพธ์การลดน้ำหนักมากกว่า (สูงสุด ~22.5%)เฉลี่ย ~15–18%
การอนุมัติในไทยได้รับการรับรองแล้ว (เปิดตัวปลายปี 2568)วางจำหน่ายแล้ว

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ Mounjaro®

ในช่วงเริ่มต้นของการใช้ ยา Mounjaro® (Tirzepatide) ผู้ใช้บางรายอาจพบกับผลข้างเคียงเล็กน้อย ซึ่งมักเป็นอาการชั่วคราวที่เกิดจากการที่ร่างกายกำลังปรับตัวต่อฮอร์โมน GLP-1 และ GIP ที่เพิ่มขึ้น โดยอาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้

อาการที่พบได้บ่อย

  • คลื่นไส้
    เกิดจากการที่ยาชะลอการล้างกระเพาะอาหาร ทำให้อิ่มนาน อาจรู้สึกแน่นท้องหรือกินอาหารได้น้อยลง
  • ท้องอืด / แน่นท้อง
    ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลงชั่วคราว บางรายอาจรู้สึกไม่สบายท้องหลังมื้ออาหาร
  • เบื่ออาหาร
    เกิดจากกลไกยาที่ทำให้สมองรู้สึกอิ่มเร็วและนานกว่าปกติ
  • ท้องผูก
    เป็นผลพวงจากการที่ระบบย่อยทำงานช้าลง อาจมีอาการขับถ่ายไม่สะดวก
  • อ่อนเพลีย หรือเวียนศีรษะเล็กน้อย
    อาจเกิดในช่วงแรกของการใช้ เนื่องจากพลังงานลดลงจากการรับประทานอาหารที่น้อยลง

คำแนะนำในการลดอาการข้างเคียง

1. เริ่มใช้ยาด้วยขนาดต่ำ

  • Mounjaro จะเริ่มต้นที่ขนาด 2.5 mg ต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ดี ก่อนเพิ่มขนาดตามแพทย์แนะนำ
  • การเพิ่มขนาดเร็วเกินไปอาจกระตุ้นอาการไม่พึงประสงค์มากขึ้น

2. ปรับพฤติกรรมการกิน

  • ควรแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อย ๆ (วันละ 4–5 มื้อเล็ก) แทนการกินมื้อใหญ่
  • หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง, อาหารทอด หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจัด

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

  • การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยเรื่องอาการคลื่นไส้และท้องผูก
  • แนะนำให้จิบน้ำเป็นระยะระหว่างวัน แทนการดื่มรวดเดียว

4. พักผ่อนให้เพียงพอ

หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในช่วง 2–3 วันแรกหลังเริ่มใช้ยา
ควรเริ่มจากขนาดต่ำสุด และเพิ่มตามลำดับอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดผลข้างเคียงให้น้อยที่สุด

ผู้ที่มีอาการเวียนหัวหรืออ่อนเพลียควรนอนหลับให้ครบ 7–8 ชั่วโมง


Mounjaro ซื้อได้ที่ไหนบ้าง?

ในปัจจุบัน Mounjaro ได้รับการรับรองจาก อย. ไทยแล้ว และคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในคลินิกและโรงพยาบาลชั้นนำภายในช่วงปลายปี 2568 โดยจะอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์เช่นเดียวกับ Wegovy หรือ Saxenda

หากคุณสนใจ Mounjaro แนะนำให้ติดตามคลินิกที่มีประสบการณ์ด้านการลดน้ำหนัก เช่น Siam Clinic ในภูเก็ต ซึ่งจะเป็นหนึ่งในคลินิกกลุ่มแรกที่นำยานี้มาใช้


ราคา Mounjaro ในประเทศไทย

ราคา Mounjaro

ในต่างประเทศราคาของ Mounjaro เฉลี่ยอยู่ที่ ประมาณ 10,000–20,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับขนาดยา) โดยในไทยคาดว่าราคาจะใกล้เคียงกับ Wegovy หรืออาจสูงกว่าเล็กน้อยในช่วงเปิดตัว


คำแนะนำก่อนใช้ยา

  • ควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางก่อนเริ่มใช้
  • หลีกเลี่ยงการซื้อยาจากแหล่งที่ไม่ปลอดภัย เช่น ออนไลน์ที่ไม่มีใบอนุญาต
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และตรวจสุขภาพตามกำหนด

สรุป

Mounjaro (Tirzepatide) คือการปฏิวัติใหม่ในโลกของการลดน้ำหนักและควบคุมเบาหวาน ที่ผสานการทำงานของสองฮอร์โมนในร่างกาย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ด้วยประสิทธิภาพที่ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยระดับโลก Mounjaro จึงเป็นทางเลือกที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ผลดีจากยาเดิมในกลุ่ม GLP-1


ปรึกษาสยามคลินิก เรื่องยาฉีดควบคุมความหิว

หากต้องการใช้ยาฉีดควบคุมความหิว ควรเข้ามารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อจะได้สอบถามประวัติและตรวจร่างกายก่อนเริ่มฉีด ทั้งนี้ ระหว่างการรักษา จะมีการติดตามอาการและประเมินผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คนไข้ลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี

นอกจากนี้สยามคลินิก ยังให้บริการการกระชับสัดส่วนด้วยวิธีอื่น ดังนี้

สามารถดูรายละเอียด แต่ละตัวช่วยได้ทางเพจคลินิก หรือ เพิ่มเติมได้ทางเว็ปไซต์ หรือนัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์ได้ค่ะ


ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต

บทความก่อนหน้านี้ข้อมูลครบ! Wegovy คืออะไร? ปากกาลดน้ำหนักที่หมอแนะนำ เห็นผลจริง ปลอดภัยไหม?
บทความถัดไปOzempic คืออะไร? ยาฉีด Semaglutide ควบคุมน้ำตาล ลดน้ำหนัก เห็นผลจริงหรือไม่?