ในยุคที่การลดน้ำหนักไม่ใช่เพียงเรื่องของรูปร่าง แต่ยังเกี่ยวข้องกับสุขภาพแบบองค์รวม Mounjaro (มอนจาโร) ได้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าจับตามองที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีภาวะอ้วนหรือเป็นเบาหวานชนิดที่ 2
Mounjaro คืออะไร?
Mounjaro (มอนจาโร) เป็นชื่อทางการค้าของ Tirzepatide (ไทร์เซพาไทด์) ยาในกลุ่มใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในวงการแพทย์ทั่วโลก โดยเฉพาะในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคอ้วน ยานี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ยาฉีดลดน้ำหนักแห่งอนาคต” ด้วยกลไกที่เหนือกว่ายาเดิมอย่าง Semaglutide (เช่น Wegovy หรือ Ozempic)
Tirzepatide ถูกพัฒนาโดยบริษัท Eli Lilly และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) สำหรับการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และในปี 2022 ได้มีการเผยแพร่ผลวิจัยชี้ชัดว่า ยานี้มีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักอย่างชัดเจน แม้ในกลุ่มผู้ที่ไม่มีเบาหวาน
กลไกการทำงานของ Mounjaro (Tirzepatide)
Mounjaro ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยาในกลุ่ม GLP-1 receptor agonist แบบเดียวกับ Semaglutide เท่านั้น แต่ยังมีการออกฤทธิ์แบบ dual incretin agonist กล่าวคือ:
- กระตุ้นตัวรับ GLP-1 (Glucagon-like Peptide-1): ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มเร็ว ลดความอยากอาหาร และชะลอการเคลื่อนตัวของอาหารในทางเดินอาหาร
- กระตุ้นตัวรับ GIP (Glucose-dependent Insulinotropic Polypeptide): ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินตามระดับน้ำตาลในเลือด และมีส่วนช่วยควบคุมเมตาบอลิซึม
ด้วยการทำงานแบบสองระบบ ยานี้จึงสามารถให้ผลลัพธ์ในการลดน้ำหนักและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดที่ทรงพลังยิ่งกว่ายาในกลุ่มเดียวกันที่มีมาก่อนหน้านี้
ประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก
Mounjaro ได้รับการทดสอบในงานวิจัยระดับโลกหลายฉบับ โดยเฉพาะการศึกษาในกลุ่มคนที่เป็นโรคอ้วนหรือมีภาวะน้ำหนักเกินโดยไม่มีเบาหวาน (SURMOUNT-1) พบว่า
ขนาดยา | น้ำหนักที่ลดได้ (โดยเฉลี่ย) |
---|---|
2.5–5 mg | ลดได้ประมาณ 16% ของน้ำหนักตัว |
10 mg | ลดได้ประมาณ 21.4% ของน้ำหนักตัว |
15 mg | ลดได้สูงสุดถึง 22.5% ของน้ำหนักตัว |
ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับ การผ่าตัดลดน้ำหนัก (Bariatric Surgery) แต่ทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด และมีผลข้างเคียงน้อยกว่า
Mounjaro เหมาะกับใคร?
แม้ว่า Mounjaro (Tirzepatide) จะเป็นนวัตกรรมยาลดน้ำหนักที่ทรงพลังและเห็นผลชัดเจน แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน การใช้ยานี้ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ และเหมาะกับผู้ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้
1. ผู้ที่มีภาวะอ้วนหรือมีน้ำหนักเกิน
Mounjaro เหมาะสำหรับผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ดังนี้
- BMI ≥ 30 (อ้วน)
- BMI ≥ 27 พร้อมโรคร่วม เช่น:
- ความดันโลหิตสูง
- เบาหวานชนิดที่ 2
- ไขมันในเลือดสูง (Dyslipidemia)
- ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ (Obstructive Sleep Apnea)
เป็นกลุ่มที่แพทย์แนะนำให้ใช้ยาควบคุมน้ำหนักเพื่อป้องกันโรคร้ายแรงในอนาคต เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือภาวะดื้ออินซูลิน
2. ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีเดิมไม่ได้ผล
หากคุณเคยพยายามลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือใช้วิธีธรรมชาติอื่น ๆ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ Mounjaro อาจเป็นตัวช่วยสำคัญ เพราะ
- ยาออกฤทธิ์ต่อสมองส่วนควบคุมความหิวโดยตรง
- เพิ่มการเผาผลาญพลังงาน
- ชะลอการล้างกระเพาะ ทำให้อิ่มนาน
- เหมาะสำหรับผู้ที่เคยใช้ Saxenda®, Wegovy® แล้วผลลัพธ์ไม่ตอบโจทย์
3. ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ควบคุมน้ำตาลไม่ได้
Mounjaro ได้รับการอนุมัติในสหรัฐฯ ให้ใช้เป็นยารักษา เบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการ
- ลดระดับ HbA1c (ค่าเฉลี่ยน้ำตาลในเลือด)
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่
- ส่งผลข้างเคียงน้อยกว่ายาเบาหวานรุ่นเก่า
- ช่วยลดน้ำหนักได้พร้อมกันในผู้ที่เป็นเบาหวานและอ้วน
เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีภาวะเมตาบอลิซึมซับซ้อน หรือมีความเสี่ยงโรคหัวใจจากน้ำหนักตัวที่มาก
4. ผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการผ่าตัดลดน้ำหนัก
หลายคนลังเลที่จะทำ Bariatric Surgery (ผ่าตัดกระเพาะ) เพราะกลัวผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน Mounjaro จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าและไม่ต้องผ่าตัด แต่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน จากการศึกษาของ SURMOUNT-1 พบว่า
ผู้ใช้ Mounjaro ขนาด 15 มก. สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 22.5% ของน้ำหนักตัวภายใน 72 สัปดาห์ ซึ่งเทียบเท่ากับผลหลังการผ่าตัดในบางกรณี
Mounjaro ไม่เหมาะกับใคร?
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่มีประวัติมะเร็งต่อมไทรอยด์ชนิด medullary thyroid carcinoma (MTC)
- ผู้ที่มีเนื้องอกของต่อมไร้ท่อชนิด MEN 2 (Multiple Endocrine Neoplasia syndrome type 2)
- ผู้ที่มีประวัติตับอ่อนอักเสบจากการใช้ยา
เริ่มต้นใช้ Mounjaro (Tirzepatide) ปากกาลดน้ำหนักยังไง?
การใช้ Mounjaro (Tirzepatide) ให้ได้ผลสูงสุดและปลอดภัย ควรเริ่มต้นอย่างมีขั้นตอน ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นที่ร่างกายต้องปรับตัวกับตัวยา เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงและเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนัก
1. ปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มใช้
- ตรวจวัด ดัชนีมวลกาย (BMI) และประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพ
- ซักประวัติทางการแพทย์ เช่น โรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่ ประวัติมะเร็งในครอบครัว
- ตรวจเลือดเบื้องต้น เช่น น้ำตาล ไขมัน ตับ ไต และฮอร์โมน เพื่อวางแผนการใช้ยาให้เหมาะสม
2. เริ่มต้นที่ขนาดยาเริ่มต้นต่ำสุด
Mounjaro มาในรูปแบบ ปากกาฉีดใต้ผิวหนัง ใช้ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยเริ่มต้นจากขนาดต่ำสุดเพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัว
สัปดาห์ | ขนาดยา |
---|---|
สัปดาห์ที่ 1–4 | 2.5 mg (ขนาดเริ่มต้น) |
สัปดาห์ที่ 5–8 | 5 mg |
สัปดาห์ที่ 9–12 | 7.5 mg |
สัปดาห์ที่ 13–16 | 10 mg |
สัปดาห์ที่ 17–20 | 12.5 mg |
สัปดาห์ที่ 21 เป็นต้นไป | 15 mg (ขนาดรักษา) |
3. วิธีฉีด Mounjaro อย่างถูกต้อง
- ตำแหน่งที่ฉีด: หน้าท้อง (ห่างจากสะดือ 2 นิ้ว), ต้นขาด้านหน้า หรือหลังต้นแขน
- ไม่ต้องฉีดทุกวัน: ฉีดเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ในวันเดียวกันของแต่ละสัปดาห์
- ควรสลับจุดฉีด ทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดก้อนแข็งหรือไตใต้ผิวหนัง
4. การเก็บรักษา
- ก่อนใช้: แช่ในตู้เย็น (2–8°C)
- หลังเปิดใช้: เก็บที่อุณหภูมิห้องไม่เกิน 30°C ได้ประมาณ 21–28 วัน
- หลีกเลี่ยงแสงแดดและห้ามแช่แข็ง
5. เฝ้าสังเกตอาการและปรับแผนตามแพทย์
- อาการข้างเคียงในช่วงแรก เช่น คลื่นไส้ เบื่ออาหาร ท้องอืด จะค่อย ๆ ลดลง
- ควรแจ้งแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องรุนแรง หรืออ่อนแรงมากผิดปกติ
- แพทย์อาจปรับขนาดยาช้าลง หรือคงขนาดเดิมนานขึ้นหากผลข้างเคียงรุนแรง
เคล็ดลับการเริ่มต้นให้ได้ผลดี
- ดื่มน้ำมาก ๆ ระหว่างวัน
- รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย ลดของมัน ของทอด
- หลีกเลี่ยงอาหารมื้อใหญ่มาก ๆ โดยเฉพาะในวันฉีดยา
- ควบคู่กับการปรับพฤติกรรม เช่น เดินออกกำลังกายเบา ๆ และจดบันทึกน้ำหนัก
Mounjaro ต่างจาก Semaglutide อย่างไร?
คุณสมบัติ | Mounjaro (Tirzepatide) | Semaglutide (Wegovy/Ozempic) |
---|---|---|
กลไก | GLP-1 + GIP agonist | GLP-1 agonist เท่านั้น |
ความถี่ในการใช้ | ฉีดสัปดาห์ละครั้ง | ฉีดสัปดาห์ละครั้ง |
ผลลัพธ์การลดน้ำหนัก | มากกว่า (สูงสุด ~22.5%) | เฉลี่ย ~15–18% |
การอนุมัติในไทย | ได้รับการรับรองแล้ว (เปิดตัวปลายปี 2568) | วางจำหน่ายแล้ว |
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ Mounjaro®
ในช่วงเริ่มต้นของการใช้ ยา Mounjaro® (Tirzepatide) ผู้ใช้บางรายอาจพบกับผลข้างเคียงเล็กน้อย ซึ่งมักเป็นอาการชั่วคราวที่เกิดจากการที่ร่างกายกำลังปรับตัวต่อฮอร์โมน GLP-1 และ GIP ที่เพิ่มขึ้น โดยอาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้
อาการที่พบได้บ่อย
- คลื่นไส้
เกิดจากการที่ยาชะลอการล้างกระเพาะอาหาร ทำให้อิ่มนาน อาจรู้สึกแน่นท้องหรือกินอาหารได้น้อยลง - ท้องอืด / แน่นท้อง
ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลงชั่วคราว บางรายอาจรู้สึกไม่สบายท้องหลังมื้ออาหาร - เบื่ออาหาร
เกิดจากกลไกยาที่ทำให้สมองรู้สึกอิ่มเร็วและนานกว่าปกติ - ท้องผูก
เป็นผลพวงจากการที่ระบบย่อยทำงานช้าลง อาจมีอาการขับถ่ายไม่สะดวก - อ่อนเพลีย หรือเวียนศีรษะเล็กน้อย
อาจเกิดในช่วงแรกของการใช้ เนื่องจากพลังงานลดลงจากการรับประทานอาหารที่น้อยลง
คำแนะนำในการลดอาการข้างเคียง
1. เริ่มใช้ยาด้วยขนาดต่ำ
- Mounjaro จะเริ่มต้นที่ขนาด 2.5 mg ต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ดี ก่อนเพิ่มขนาดตามแพทย์แนะนำ
- การเพิ่มขนาดเร็วเกินไปอาจกระตุ้นอาการไม่พึงประสงค์มากขึ้น
2. ปรับพฤติกรรมการกิน
- ควรแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อย ๆ (วันละ 4–5 มื้อเล็ก) แทนการกินมื้อใหญ่
- หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง, อาหารทอด หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนจัด
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยเรื่องอาการคลื่นไส้และท้องผูก
- แนะนำให้จิบน้ำเป็นระยะระหว่างวัน แทนการดื่มรวดเดียว
4. พักผ่อนให้เพียงพอ
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักในช่วง 2–3 วันแรกหลังเริ่มใช้ยา
ควรเริ่มจากขนาดต่ำสุด และเพิ่มตามลำดับอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดผลข้างเคียงให้น้อยที่สุด
ผู้ที่มีอาการเวียนหัวหรืออ่อนเพลียควรนอนหลับให้ครบ 7–8 ชั่วโมง
Mounjaro ซื้อได้ที่ไหนบ้าง?
ในปัจจุบัน Mounjaro ได้รับการรับรองจาก อย. ไทยแล้ว และคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในคลินิกและโรงพยาบาลชั้นนำภายในช่วงปลายปี 2568 โดยจะอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์เช่นเดียวกับ Wegovy หรือ Saxenda
หากคุณสนใจ Mounjaro แนะนำให้ติดตามคลินิกที่มีประสบการณ์ด้านการลดน้ำหนัก เช่น Siam Clinic ในภูเก็ต ซึ่งจะเป็นหนึ่งในคลินิกกลุ่มแรกที่นำยานี้มาใช้
ราคา Mounjaro ในประเทศไทย
ในต่างประเทศราคาของ Mounjaro เฉลี่ยอยู่ที่ ประมาณ 10,000–20,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับขนาดยา) โดยในไทยคาดว่าราคาจะใกล้เคียงกับ Wegovy หรืออาจสูงกว่าเล็กน้อยในช่วงเปิดตัว
คำแนะนำก่อนใช้ยา
- ควรเข้ารับการปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางก่อนเริ่มใช้
- หลีกเลี่ยงการซื้อยาจากแหล่งที่ไม่ปลอดภัย เช่น ออนไลน์ที่ไม่มีใบอนุญาต
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และตรวจสุขภาพตามกำหนด
สรุป
Mounjaro (Tirzepatide) คือการปฏิวัติใหม่ในโลกของการลดน้ำหนักและควบคุมเบาหวาน ที่ผสานการทำงานของสองฮอร์โมนในร่างกาย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ด้วยประสิทธิภาพที่ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยระดับโลก Mounjaro จึงเป็นทางเลือกที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ผลดีจากยาเดิมในกลุ่ม GLP-1
ปรึกษาสยามคลินิก เรื่องยาฉีดควบคุมความหิว
หากต้องการใช้ยาฉีดควบคุมความหิว ควรเข้ามารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อจะได้สอบถามประวัติและตรวจร่างกายก่อนเริ่มฉีด ทั้งนี้ ระหว่างการรักษา จะมีการติดตามอาการและประเมินผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คนไข้ลดน้ำหนักได้อย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดี
นอกจากนี้สยามคลินิก ยังให้บริการการกระชับสัดส่วนด้วยวิธีอื่น ดังนี้
- INDIBA BODY BURN ช่วยการเผาผลาญ ลดไขมันสะสม กระชับสัดส่วน
- Cristal CoolScultping : เครื่องสลายไขมัน ด้วยความเย็น
- การดูดไขมัน (Liposuction) เหมาะสำหรับคนที่มี ภาวะอ้วนแล้ว (BMI >25)
สามารถดูรายละเอียด แต่ละตัวช่วยได้ทางเพจคลินิก หรือ เพิ่มเติมได้ทางเว็ปไซต์ หรือนัดหมายเพื่อปรึกษาแพทย์ได้ค่ะ
ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต
- สยามคลินิก
- แผนที่ : https://g.page/SiamClinicPhuket
- โทรศัพท์ : 088-488-6718 และ 093-692-5999
- Email : [email protected]
- Facebook inbox : https://m.me/siamclinicthailand
- Instagram : https://www.instagram.com/siamclinic
- Line@ : @siamclinic หรือแอด https://lin.ee/uny1D7n