ปกติแล้ว คุณใช้วิธีใดบ้างเมื่อต้องการจะลดหรือควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย? ลดอาหาร? ควบคุมแคลอรี่? งดอาหารที่ชอบ? และอีกสารพัดวิธีที่จะสรรหาทำ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าอาจเป็น นิสัยการกินที่ไม่ดี ที่สุด ที่จะทำให้ระบบเผาผลาญพังโดยไม่รู้ตัว จะมีพฤติกรรมไหนบ้างมาดูกันเลยค่ะ
1.ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ
โปรตีน เป็นสารอาหารประเภทหนึ่งที่สำคัญต่อระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกาย จากข้อมูลของ Nutrition & Metabolism พบว่า การบริโภคอาหารที่มีโปรตีนสูง มีความสัมพันธ์โดยตรงกับอัตราการเผาผลาญที่ดีขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าเราต้องให้ความสำคัญกับการบริโภคโปรตีนให้มาก ไม่ใช่แค่กินให้มาก แต่ให้กินให้เพียงพอ เราอาจจะต้องคำนวณปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมสำหรับร่างกายระหว่างมื้ออาหารกับของว่าง เพราะควรจะได้โปรตีนไปส่งเสริมการทำงานของระบบเผาผลาญ และเพื่อการเจริญเติบโตและซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่สึกหรอของร่างกายด้วย
นักโภชนาการจึงแนะนำให้กำหนดปริมาณการรับโปรตีนสำหรับอาหารทุกมื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับโปรตีนเพียงพอตลอดทั้งวัน เช่น บริโภคโปรตีนอย่างน้อย 20 กรัม ต่อมื้อ (สำหรับคนที่น้ำหนัก 60 กิโลกรัม)
2.กินจุบจิบ
พฤติกรรมการกินเรื่อยๆ ต่อให้แม้จะกินไม่เยอะก็ตาม ก็ถือว่าไม่ดีกับร่างกายแล้ว เพราะทุกครั้งที่เราประทานอะไรเข้าไป ร่างกายเราจะอยู่ในโหมดของการสะสมพลังงานตลอดเวลา เราควรมีเวลาให้ร่างกายได้พักด้วยการไม่กินอะไรบ้าง ซึ่งจะทำให้ร่างกายกลับไปอยู่ในโหมดของการใช้พลังงาน
การงดกินจุบจิบก็คือการทำให้ระบบการเผาผลาญกลับไปสู่สภาวะปกติของร่างกายนั่นเอง
3.กินมื้อดึก
ร่างกายคนเราต้องการอาหาร เพราะในอาหารมีพลังงานที่นำมาใช้ในการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน การที่เรากินอาหารมื้อต่างๆ ในช่วงกลางวัน ก็เพื่อให้ร่างกายกระฉับกระเฉงมีแรงทำงานทำการ ซึ่งโดยปกติแล้ว ร่างกายจะคำนวณพลังงานที่ต้องการให้เหมาะสมกับกิจกรรมระหว่างวัน คนที่ทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก ก็ย่อมต้องการอาหารและพลังงานมากขึ้น เช่นเดียวกันกับเวลานอน ร่างกายไม่ได้จำเป็นต้องใช้พลังงานมากมายสำหรับการนอนหลับ เราจึงไม่จำเป็นที่จะต้องรับพลังงานหรือกินอาหารแคลอรี่สูงในช่วงที่ใกล้เข้านอน
ดังนั้น แค่พลังงานที่รับจากการกินอาหารในเวลากลางวันแล้วยังเผาผลาญไม่หมด หรืออาหารที่เรากินในมื้อเย็นก็เพียงพอสำหรับกิจกรรมการนอนแล้ว ขณะเดียวกัน ระบบย่อยอาหารก็จะทำงานช้าลงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนอน ในคนที่งดอาหารเช้า กินมื้อระหว่างวันน้อย แต่มาเน้นหนักในมื้อเย็น ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานช่วงก่อนนอนมากเกินไป ซึ่งมันขัดกับการทำงานตามธรรมชาติของระบบย่อยอาหารที่ควรจะทำงานน้อยลงในขณะที่เรานอนหลับ ดังนั้น เพื่อให้ระบบเผาผลาญของเราทำงานสมดุลตามธรรมชาติ นักโภชนาการแนะนำให้กินมื้อเช้าที่บำรุงร่างกาย กินมื้อกลางวันเป็นมื้อใหญ่ ส่วนมื้อเย็นให้เป็นมื้อที่เล็กลง และงดมื้อดึก!
4.เมินอาหารที่มีไฟเบอร์
เราต่างรู้ดีว่าผักผลไม้มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่หลายคนก็เลือกที่จะไม่กินเพราะรู้สึกว่ามันไม่อร่อย ผักและผลไม้เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือใยอาหาร ซึ่งเป็นส่วนช่วยที่สำคัญในการดูแลระบบเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานเป็นปกติ กล่าวคือในกระบวนการย่อยอาหาร ไฟเบอร์จะเพิ่มอัตราและความสามารถในการเผาผลาญพลังงานให้ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ไฟเบอร์ช่วยให้เราอิ่มท้องนาน จึงควบคุมระดับพลังงานได้ค่อนข้างคงที่ตลอดวัน ไม่เพียงเท่านั้น ไฟเบอร์ยังช่วยลดโอกาสเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคมะเร็งด้วย
5.อดอาหารหรือควบคุมแคลอรี่ไม่ถูกวิธี
การจำกัดพลังงานจากอาหารหรือแคลอรี่ที่ได้รับในแต่ละวัน (กินให้น้อยกว่าที่ใช้) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก แต่…ถ้าเราได้รับพลังงานน้อยเกินไป จะส่งผลให้ระบบเผาผลาญพังได้ พูดง่ายๆ ก็คือ การควบคุมแคลอรี่เป็นสิ่งสำคัญในการลดน้ำหนัก แต่ร่างกายเราก็จำเป็นต้องรับแคลอรี่เพื่อไปเผาผลาญแคลอรี่เช่นเดียวกัน หากเราได้รับแคลอรี่น้อยเกินไปมากๆ (อดอาหารหรือคุมแคลอรี่ไม่ถูกวิธี) ร่างกายจะเข้าใจว่าเรากำลังอยู่ในภาวะขาดแคลนอาหาร และจะชะลอการเผาผลาญเพื่อให้ร่างกายมีพลังงานเพียงพอ
6.กินอาหารแปรรูปเป็นประจำ
การทำงานของระบบเผาผลาญของคนเรา จะขึ้นอยู่กับปริมาณอาหารและประเภทของอาหารที่กินเข้าไป อย่างไรก็ดี นักโภชนาการกล่าวว่าอาหารแปรรูปทั้งหลายไม่ดีต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย เพราะอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูปเป็นอาหารที่ย่อยเร็ว ที่สำคัญคือไม่มีใยอาหาร ระบบเผาผลาญจึงทำงานได้ไม่เต็มที่ ฉะนั้น เราจึงควรจำกัดการบริโภคอาหารแปรรูป อาหารสำเร็จรูปไม่ให้มากเกินไป ถ้าต้องการของว่าง หรือขนมมาเคี้ยวเล่น (ถ้าเลือกได้) แนะนำให้เลือกอาหารที่มีส่วนผสมของใยอาหาร เช่น ธัญพืชเต็มเมล็ด ถั่ว หรือผลไม้จะดีกว่า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? รู้แล้วใช่ไหมคะว่าพฤติกรรมไหนเป็น นิสัยการกินที่ไม่ดี ที่จะทำให้ระบบเผาผลาญพังโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเราปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นกันเถอะค่ะ
บทความอื่นๆ
- ผิวสวยด้วยวิตามินดี
- ฉีดฟิลเลอร์หน้าตอบ บอกลาหน้าแก่
- ฉีดวิตามินผิวใส (Vitamin Drip) ผิวใส ผิวขาว ผิวเนียนสวย แบบทันใจ
- 6 อาหาร โพแทสเซียมสูง กินได้ตัวไม่บวม
- ติดโควิดที่ภูเก็ตต้องทำอย่างไร?
- เคล็ดลับการดูเเลตัวเองของ ซง จีอา สาวสุดฮอตจาก Single’s Inferno
ติดต่อสยามคลินิกภูเก็ต
- ติดต่อเราได้ที่ สยามคลินิก ชั้น 1 ห้าง บิ๊กซี ภูเก็ต
- แผนที่ : https://g.page/SiamClinicPhuket
- โทรศัพท์ : 088-488-6718 และ 093-692-5999
- Email : [email protected]
- Facebook inbox : https://m.me/siamclinicthailand
- Instagram : https://www.instagram.com/siamclinic
- Line@ : @siamclinic หรือแอด https://lin.ee/uny1D7n
- Youtube : Siam Clinic สยามคลินิก คลินิกความงามภูเก็ต – YouTube